มะเขือเทศ...เสน่ห์เหลือร้าย
ผลกลมๆ สีแดงๆ น้อยคนนักที่จะไม่รู้จักผลไม้ชนิดนี้ โดยเฉพาะคุณผู้หญิง
ผลไม้ชนิดนี้ถือได้ว่าเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับสร้างสรรค์ความสวยของผู้เลยทีเดียว
ด้วยคุณสมบัติที่ซุกซ่อนอยู่ภายในของเจ้าผลไม้ชนิดนั้นมีอยู่มากหลาย
เพราะอุดมไปด้วยวิตามินที่สำคัญและแร่ธาตุต่างๆ
อีกหลายชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ อีกทั้งยังมีแคลอรีน้อย สามารถกินได้คล่องปาก
สบายใจ ไม่มีเรื่องไขมันและน้ำหนักตัวมาทำให้หวาดหวั่น แม้ผลไม้ชนิดนี้จะเป็นผลไม้
แต่หลายคนก็ยังเข้าใจผิดคิดว่ามันเป็นเพียงผัก เพราะส่วนใหญ่จะนำมาประกอบอาหารและยังนำมาตกแต่งอาหารให้ดูสดใสน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น
ผลไม้ชนิดนี้มีให้กินตลอดทั้งปี ราคาสบายกระเป๋า
เสน่ห์เหลือร้ายออกอย่างนี้คงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากผลไม้ที่มีสโลแกนประจำตัวว่า
สวยอร่อย แถมอุดมไปด้วยวิตามินอย่างมะเขือเทศนั่นเอง
รู้จักมะเขือเทศ
ราว 5,700 ปีก่อน
ชาวแอซเทกเป็นชนชาติแรกที่ปลูกมะเขือเทศ ปัจจุบันมะเขือเทศเป็นพืชยอดนิยม
ที่นิยมปลูกมากเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากมันฝรั่ง ในปี พ.ศ.
2555 เกษตรกรทั่วโลกปลูกมะเขือเทศได้มากถึง
152 ตัน
มะเขือเทศ หรือ Tomato
(ชื่อวิทยาศาสตร์ : Lycoperisicon esculentum Mill) มะเขือ คือผักผลไม้? คำตอบก็คือ “มะเขือเทศคือผลไม้” โดยตามหลักพฤกษศาสตร์
ผลไม้คือส่วนของรังไข่ที่เจริญเติบโตเต็มที่ของพืชดอก
ส่วนผักก็คือพืชที่กินได้ของพืชล้มลุก ไม่ว่าจะเป็น ราก ใบ ก้าน ดอก หน่อ
แต่ส่วนที่คนส่วนใหญ่คิดว่ามะเขือเทศคือผักเพราะมะเขือเทศนำไปใช้ประกอบอาหารเป็นส่วนใหญ่
โดยมะเขือเทศที่นิยมรับประทานกันมากคือ มะเขือเทศสีดา มะเขือเทศราชินี
และมะเขือเทศนั้นจัดว่าเป็นผลไม้ที่คนทั่วโลกนิยมรับประทานกันมากที่สุด
โดยนิยมรับประทานกันมากกว่าผลไม้ยอดนิยมอันดับ 2
อย่างกล้วยมากถึง 16 ล้านตันต่อปี ส่วนผลไม้อันดับ 3 แอปเปิ้ลและส้มตามลำดับ ชนชาติที่รับประทานมะเขือเทศมากที่สุดในโลกคือ
อเมริกัน แคนาดา และเม็กซิโก รับประทานเฉลี่ยครอบครัวละ 40 – 50 กิโลกรัมต่อปี ส่วนคนไทยรับประทานน้อยกว่า 5 กิโลกรัมต่อปี
นอกจากชาวอเมริกันจะชอบรับประทานมะเขือเทศแล้วยังปลูกมะเขือเทศมากเป็นอันดับ 2
ของโลกในปี พ.ศ. 2555 ปลูกได้ 12 ล้านตัน เป็นรองจากชาวจีนที่ปลูกได้มากถึง 41 ล้านตัน
มะเขือเทศนอกจากจะเป็นผลไม้ที่นิยมรับประทานกันมากที่สุดในโลกแล้ว
ประโยชน์ของมะเขือเทศนั้นมีอยู่มากมายเพราะอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและมะเขือเทศยังจัดว่าเป็นผลไม้ที่มีสรรพคุณเป็นยารักษาโรคได้อีกด้วย
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
มะเขือเทศเป็นพืชในวงศ์ :
Solanaceae ชื่อวิทยาศาสตร์ : Lycoperisicon esculentum Mill
เป็นพืชล้มลุกอายุเพียง 1 ปี สูงประมาณ 1
– 2 เมตร มีลักษณะของต้นดังนี้
1. ใบ เป็นใบประกอบออกเป็นสลับ
ขอบใบหยักเป็นซี่ห่างๆ คล้ายฟันเลื่อยมีขนอ่อนๆ ใบย่อยขนาดไม่เท่ากัน อาจเล็กเรียว
หรือกลมใหญ่ ปลายใบแหลม ใบกว้าง 2 – 5 เซนติเมตร ยาว 3
– 10 เซนติเมตร ก้านใบยาวประมาณ 1 – 1.5 เซนติเมตร
2. ดอก เป็นดอกขนาดเล็ก เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ
2
เซนติเมตร กลีบดอกมีสีเหลืองเชื่อมติดกันเป็นรูปกรวย มีกลีบดอก 5
– 7 กลีบ กลีบเลี้ยงสีเขียวมีขนละเอียดปกคลุม เป็นดอกสมบูรณ์เพศ
มีเกสรเพศผู้ 5 ก้านรอบเกสรเพศเมีย
3. ลำต้น ลำต้นอวบ แตกกิ่งก้านสาขามากช่วงแรกที่งอก
ลำต้นจะค่อนข้างกลมแต่เมื่อโตขึ้นลำต้นจะเป็นเหลี่ยม
4. ผล ผลเป็นผลเดี่ยว
มีขนาดรูปร่างและสีต่างกัน ซึ่งมีขนาดเล็กขนาดประมาณ 3 เซนติเมตรจนใหญ่ประมาณ 10 เซนติเมตร
รูปร่างมีทั้งกลม กลมแบนหรือกลมรี ผิวนอกเรียบเป็นมัน
ผลดิบมีสีเขียวหรือเขียวอมเทา เมื่อสุกจะมีสีเหลือง สีส้มหรือแดง มีเนื้อฉ่ำน้ำภายในมีเมล็ดจำนวนมาก
โดยภายใน 1 ผลมีประมาณ 250 เมล็ด
มะเขือเทศพันธุ์ต่างๆ
มะเขือเทศแบ่งเป็น 2 ชนิด คือมะเขือเทศบริโภคผลสดและมะเขือเทศที่ใช้ในอุตสาหกรรม
1. มะเขือเทศบริโภคผลสด
แบ่งเป็น 3 ชนิดคือ
1.1 พันธุ์ผลโต
นิยมใช้ทำสลัดและประดับจานอาหารเช่น พันธุ์กัลยาณี ฟลอราเดล ท้อ สเต๊ก
1.2 พันธุ์ผลเล็ก
นิยมใช้ประกอบอาหารพื้นบ้าน เช่น พันธุ์สีดา ห้างฉัตร เพชรลานนา เป็นต้น
1.3 มะเขือเทศเชอร์รี่
เช่นพันธุ์ทับทิมแดง จูเลียต ราชินี เป็นต้น มีลักษณะเป็นผลกลมรสหวานกว่าพันธุ์อื่นๆ
2. มะเขือเทศที่ใช้ในอุตสาหกรรม
เช่น พันธุ์บีตา ทศกัณฐ์ 526 วีเอฟ 134-1-2 เป็นต้น
สารชนิดต่างๆ ในมะเขือเทศ
มะเขือเทศเป็นพืชชนิดหนึ่งที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร
มะเขือเทศขนาดปานกลางจะมีวิตามินซีครึ่งหนึ่งของส้มโอทั้งผล
มะเขือเทศผลหนึ่งจะมีวิตามินเอราว 1 ใน 3 ของวิตามินเอที่ร่างกายต้องการในหนึ่งวันนอกจากนี้มะเขือเทศยังมีสารจำพวกแคโรทีนอยด์
ชื่อโลโคปีน ซึ่งเป็นสารสีแดงและวิตามินหลายชนิด เช่น วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินเค มีกรดมาลิค กรดซิตริกซึ่งให้รสเปรี้ยวและมีกรดกลูตามิกซึ่งเป็นกรดอะมิโนช่วยเพิ่มรสชาติให้อาหารและมะเขือเทศยังประกอบด้วยสารเบต้า-แคโรทีนและแร่ธาตุหลายชนิด
เช่น แคลเซียม ฟอสอรัส แมกนีเซียม โพแทสเซียม เหล็ก เป็นต้น
ประโยชน์จากมะเขือเทศ
1. ผลมีรสเปรี้ยวช่วยดับกระหายทำให้เจริญอาหาร บำรุงและกระตุ้นกระเพาะอาหาร
ลำไส้ ไต ให้ทำงานได้ดี ช่วยขับพิษและสิ่งตกค้างในร่างกายเป็นยาระบายอ่อนๆ
2. ช่วยให้ใบหน้าเปล่งปลั่งสดชื่น
กรดผลไม้ใบมะเขือเทศมีสรรพคุณช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายให้หลุดออกทำให้ผิว เปล่งปลั่ง
3. ล้างพิษด้วยน้ำมะเขือเทศ
เนื่องจากมะเขือเทศอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระวิตามินเอ ซี และอี
ซึ่งช่วยเสริมสร้างพลังงานและขจัดสารพิษออกจากร่างกาย
4. ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง มะเขือเทศช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งที่ปาก
หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ปลายลำไส้ใหญ่และปลายทวารหนักได้ถึงร้อยละ 60 และยังช่วยลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็งที่อัณฑะในเพศชาย มีหลักฐานระบุว่า
มะเขือเทศที่ปรุงสำเร็จรูปมีไลโคปีนซึ่งเป็นสารต้านมะเร็งอยู่เป็นจำนวนมาก
5. ลดอาการบวม โพแทสเซียมจำนวนมากในมะเขือเทศช่วยควบคุมสมดุลของเหลวในเซลล์และเนื้อเยื่อ
ลดบวมตามร่างกายหรือที่เรียกว่าบวมน้ำ บรรเทาอาการอักเสบการบวม
6. ช่วยลดการแข็งตัวของผนังหลอดเลือด รักษาโรคลักปิดลักเปิด ช่วยบำรุงสายตา
ลดความดันโลหิต และช่วยบรรเทาอาการป่วยของผู้ป่วยเป็นโรคหัวใจ
โรคความดันโลหิตสูงและโรคตับอักเสบโดยรับประทานมะเขือเทศสุกเป็นประจำ
7. ช่วยรักษาผิวหนังที่โดนแดดเผา
โดยใช้ใบตำให้ละเอียดทาบริเวณที่เป็น
ข้อแนะนำในการเลือกรับประทานมะเขือเทศ
1. การรับประทานมะเขือเทศสด
ไม่ควรเลือกรับประทานมะเขือเทศดิบ
เพราะในมะเขือเทศดิบมีสารพวกสเตียรอยดัลอัลคาลอยด์ ถ้ารับประทานในขนาดที่ทำให้เกิดพิษจะระคายเคืองทางเดินอาหารอย่างรุนแรง
มีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางอาจส่งผลทำให้เป็นอัมพาตได้
2.
การรับประทานมะเขือเทศผ่านการปรุง
มะเขือเทศที่ผ่านความร้อนจะทำให้การยึดจับของไลโคปีนกับเนื้อเยื่อของมะเขือเทศอ่อนตัวลง
ทำให้ไลโคปีนถูกร่างกายนำไปใช้ได้ดีกว่า
นอกจากนี้ความร้อนและกระบวนการต่างๆในการผลิตผลิตภัณฑ์มะเขือเทศยังทำให้ไลโคปีนเปลี่ยนรูปเป็นชนิดที่ละลายได้ง่ายขึ้น
มะเขือเทศนั้นมีประโยชน์มากมายทั้งในด้านสุขภาพ
เช่น การรักษาและบำรุงผิวหน้าผิวกาย การต่อต้านโรคร้ายต่างๆ ด้านอาหาร เช่น
การประกอบอาหารในหลายเมนู การตกแต่งจานอาหาร มะเขือเทศอุดมไปด้วยแร่ธาตุ วิตามินต่างๆมากมาย
แต่ที่เป็นตัวเด่นเลยคือ สารไลโคปีน แม้มะเขือเทศจะมีประโยชน์มากมาย
แต่ถ้าหากเรารับประทานอย่างไม่ถูกวิธี เช่น
รับประทานในมะเขือเทศยังเป็นผลดิบก็อาจมีสารที่ก่ออันตรายต่อเราได้เช่นกัน
ดังนั้นเราควรศึกษาลักษณะทั่วไปของมะเขือเทศ เพื่อป้องกันอันตรายและเพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดในการรับประทานมะเขือเทศ
บรรณานุกรม
กรณัฐวุฒิ รักแคว้น. (2553). เคล็ดเครื่องสำอาง อาวุธลับผิวสวย. กรุงเทพฯ : ฐานบุ๊ค
ธนันท์ เฉลิมสินสุวรรณ. (2556.พฤศจิกายน). มะเขือเทศ พืชยอดนิยม. Go Genius. 103(9).36-37
เต็ม สมิตินันทน์. (2544).
ชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย.
กรุงเทพฯ : สำนักวิชาการป่าไม้ กรมป่าไม้
สมพร ภูติยานันต์. (2551).
สมุนไพรใกล้ตัวเล่ม13:สมุนไพรแต่งสี กลิ่น
รส. เชียงใหม่ :
ตุลย์การพิมพ์
th.wikipedia.org/wiki/มะเขือเทศ.
วณัชพร กุญชรวิชัย เลขที่ 27
ผู้จัดทำ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น