แมวเอ๋ย..แมวเหมียว

       แมว มีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า Felis Catus นักชีววิทยาค้นพบว่าบรรพบุรุษของแมวเกิดขึ้นนานกว่า 50 ปีมาแล้ว แมวเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและกินเนื้อเป็นอาหาร เรียกว่า Miasis และเริ่มวิวัฒนาการขึ้นมาจนมีลักษณะเหมือนแมวเมื่อ 10 ล้านปีก่อน มีขนาดรูปร่างใกล้เคียงกับแมวป่าที่มีเขี้ยวขนาดใหญ่ เรียกว่า Dinistis ชาวตะวันตกเชื่อว่าแมวนั้นเดิมเป็นสัตว์ในแอฟริกา ชาวอียิปต์ได้นำมาเลี้ยงไว้ในบ้าน แมวจึงอยู่กับคนเรื่อยมา จนในที่สุดเผ่าพันธุ์แมวก็กระจายไปทั่วทุกหนทุกแห่งทั่วโลก
       ในประเทศไทยก็เริ่มมีการเลี้ยงแมวมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย โดยเลี้ยงไว้เพื่อจับหนูเหมือนกับชาวอียิปต์ จนมีตำราแมวให้คุณ-ให้โทษ แมวไทยคู่แรกออกจากไทยไปสู่สายตาชาวโลก ถูกนำไปโดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว(ร.5) ที่ทรงพระราชทานให้กับ Mr. Owen Gould กงสุลอังกฤษประจำกรุงเทพมหานครเมื่อปี พ.ศ. 2427 ซึ่งได้นำแมวไทยคู่นี้ไปให้น้องสาวที่ประเทศอังกฤษ แมวไทยคู่นี้เป็นแมววิเชียรมาศแต้มสีครั่ง และในปี พ.ศ. 2428 แมวคู่นี้ถูกส่งเข้าประกวดในงานประกวดที่ The Crystal Palace ณ ประเทศอังกฤษ ผลการประกวดปรากฏว่าแมวไทยคู่นี้ชนะในการประกวด ทำให้ชาวอังกฤษยิยมเลี้ยงแมวไทยมากขึ้น หลังจากที่แมวไทยคู่นี้ได้ทำชื่อเสียงในอังกฤษ ร.5 ทรงเห็นว่าแมวไทยเป็นที่รู้จักของประเทศทั่วโลก จึงได้พระราชทานแมวไทยให้กับประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศ และจากสิ่งที่พระองค์ได้ทำนั้น ทำให้แมวไทยและประเทศไทยมีชื่อเสียงไปทั่วโลก
ร้องเรียกเหมียวๆเดี๋ยวก็มา
         ตัวอย่างพฤติกรรมของแมวเช่นการมาคลอเคลียที่ขาของเรา แมวทำแบบนี้เพื่อให้กลิ่นของมันกระจายติดตามร่างกายของผู้ที่แมวเข้าไปคลอเคลีย การแสดงอาการเช่นนี้ของแมวบ่งบอกถึงความต้องการที่จะแสดงความเป็นเจ้าของ เพราะโดยธรรมชาติแล้วแมวเป็นสัตว์ที่รักอิสระ ชอบทำอะไรตามใจตัวเองและมักคิดเสมอว่าตัวเองเป็นนายของมนุษย์ เป็นนายเรา เป็นเจ้าของเรามากกว่าที่เราเป็นเจ้าของมัน แมวจะรักตอบคนที่มันรักเท่านั้น และแมวก็ไม่ค่อยติดเจ้าของเหมือนสุนัข ไม่ตามเฝ้าเราตลอดเวลาแต่ถ้าทำให้มันรักเรา และเราก็เรียนรู้วิธีที่จะจัดการกับมันอย่างถูกต้อง แมวจะกลายเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ารักน่าเอ็นดูเลยทีเดียว
       ลักษณะนิสัยที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของแมวโดยทั่วไป คือการมีโลกส่วนตัวสูง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนยืนยันได้ว่าเป็นนิสัยของแมว เพราะแมวในปัจจุบันมีวิวัฒนาการมาจากแมวป่าแอฟริกา ที่อาศัยอยู่อย่างโดดเดี่ยวและมีปฏิสัมพันธ์กับตัวอื่นน้อยมาก แมวในปัจจุบันจึงมีนิสัยอยู่โดยลำพังตกทอดมาเป็นบางส่วนแต่ไม่ใช่ทั้งหมด การเลี้ยงดูและเลอกผสมพันธุ์เป็นเวลาหลายร้อยรุ่น ทำให้แมวมีนิสัยที่เข้าสังคมได้มากกว่าบรรพบุรุษ แมวมักจะแสดงความรักต้อมนุษย์อยู่บ่อยๆ ร่วมกับการมีโลกส่วนตัวสูงไปด้วยกัน เช่น แมวบาตัวพยายามเรีกร้องความสนใจและแสดงความรักต่อเจ้าของ เล่นและกอดผู้คนบ่อยครั้ง ส่วนแมวบางตัวอาจชอบมีพื้นที่ส่วนตัวมากกว่า ด้วยการนอนใกล้ๆเจ้าของแต่ไม่ใช่นอนบนตัก
เจ้าเหมียว มีอะไรมากกว่าที่เห็น
         อย่างที่เรารู้กันว่า แมวมีร่างกายที่ยืดหยุ่นได้ดี แต่ส่วนที่เราไม่รู้ก็ยังมีอีกมาก เช่น แมวสามารถวิ่งได้ด้วยความเร็ว 49 กม./ชม.ในระยะทางสั้นๆ, แมวมีการมองเห็นทั้งหมดสูงถึง 280 องศา ซึ่งคุณสมบัตินี้จำเป็นต่อการค้นหา ไล่ล่า และจับเหยื่อ โดยทั่วไปแมวสามารถจับความเคลื่อนไหวได้ในทุกๆนาที, แมวมีความสามารถในการได้ยินที่ดีที่สุดในอาณาจักรสัตว์ความถี่ในการได้ยินมากกว่ามนุษย์ 3-4 เท่า, แมวมีกระดูกสันหลังที่สามารถบิดงอได้ และไม่มีกระดูกไหปลาร้า ทำให้สามารถพลิกตัวกลับกลางอากาศและลงในท่วงท่าที่ปลอดภัยเมื่อตกจากที่สูงได้, จมูกของแมวเหมือนกับลายมือของคน สามารถบอกเอกลักษณ์ของแมวแต่ละตัวได้, แมวสามารถทำเสียงที่ต่างกันได้มากกว่า 100 แบบ ขณะที่สุนัขทำได้เพียง 10 แบบเท่านั้น 
เทคแคร์...ดูแลเจ้าเหมียว
         การให้อาหารหรือปรุงอาหารให้แมว ควรคำนึงให้อาหารนั้นถูกสัดส่วนตามความต้องการของแมวโภชนาการ และอัตราส่วนที่เหมาะสม ตรงกับความต้องการของแมวในแต่ละวัย และแมวก็มีบางอย่างที่กินไม่ได้เหมือนกับคน คือ กาแฟ ชา เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและช็อกโกแลต, องุ่นและลูกเกด, นมวัวสด, แฮมหรืออาหารที่ทำจากสัตว์ที่มีรสเค็ม และแมวไม่สามารถกินยาพาราเซตตามอลได้ อาหารพวกนี้เป็นอันตรายกับแมวมาก
       ผู้เลี้ยงแมวอาจไม่ทราบอาการเจ็บป่วยของแมว เพราะแมวไม่สามารถบอกอาการได้เหมือนคนจนทำให้รักษาไม่ทันและอาจสายเกินแก้ ดังนั้นเราจึงควรสังเกตอาการสัตว์เลี้ยงของเราเพื่อจะได้พาไปรักษาได้อย่างทันท่วงที
       เรื่องของแมวนั้นยังมีสิ่งที่มนุษย์อย่างเราไม่รู้อีกมากมาย ซึ่งต้องมีการศึกษาค้นคว้ากันต่อไป และหากคุณคิดจะเลี้ยงสัตว์สักตัว และได้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับแมวมากมายขนาดนี้แล้ว ก็ลองเปิดใจให้แมวเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งของคุณ และเมื่อเรานำแมว หรือสัตว์เลี้ยงชนิดใดก็ตามมาเลี้ยง เราก็ควรจะดูแลให้ดี เพราะสัตว์เหล่านี้ก็ต้องการการดูแลเอาใจใส่ไม่ต่างจากคน ต้องให้ความรักและการดูแลเอาใจใส่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนในครอบครัวต้องร่วมกันดูแลให้ถูกวิธี เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข

 อ้างอิง
       http://pet.kapook.com/view/20662.html. (10 พฤศจิกายน 2556)
Essential cat. 13 things you didn’t know about cat[ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก:
       http://www.rd.com/advice/pets/13-things-you-didn’t-know-about-cats/. (10 พฤศจิกายน 2556)
Purina.ทำความเข้าใจนิสัยแมว. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://www.2nestle.co.th. (10 พฤศจิกายน 2556)
กลุ่มห้องแมว pantip.com. (2552). คู่มือเลี้ยงแมวฉบับเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่1. กรุงเทพ: แม็ควิสาร์ด
ณัฎฐพริมา สุริยะธำรงกุล. 19 กรกฎาคม 2554. แมว. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก:
      กลุ่มห้องแมว pantip.com. (2552). คู่มือเลี้ยงแมวฉบับเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่1. กรุงเทพ: แม็ควิสาร์ด
ณัฎฐพริมา สุริยะธำรงกุล. 19 กรกฎาคม 2554. แมว. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก:
       http://sites.google.com/site/natparima/home. (13 พฤศจิกายน 2556)
น้องเหมียวน่ารัก.  กรกฎาคม 2553. ความลับในร่างแมว. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก:
       http://lovelyfriends2n.blogspot.com/2010/07/blog-post-19.html. (13 พฤศจิกายน 2556)
 พฤศจิกายน 2556)
น้องเหมียวน่ารัก.  กรกฎาคม 2553. ความลับในร่างแมว. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก:
       http://lovelyfriends2n.blogspot.com/2010/07/blog-post-19.html. (13 พฤศจิกายน 2556)

นางสาวณัฐนรี  คงธนอุดม  เลขที่ 18  ม.5/1

         

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

About this blog

Research & Knowledge Formation

Blog Archive