สิวคืออะไร
สิวคือปัญหาหนึ่งสำหรับวัยรุ่นที่ทำให้วัยรุ่นบางคนถึงกับเครียดกับใบหน้าของตัวเองจนหาวิธีถูกๆผิดๆมาใช้ในการรักษาและไม่ใช่แค่วัยรุ่นเท่านั้นที่พบกับปัญหาสิว  ผู้ใหญ่หรือคนที่กำลังอยู่ในวัยทำงานบางคนก็ยังประสบกับปัญหานี้อยู่   และแน่นอนว่าหลายคนต้องหันไปพึ่งมีดหมออย่างคลินิกศัลยกรรม  คลินิกเสริมความงามต่างๆกันอย่างแน่นอน  แต่กว่าจะได้ใบหน้าสวยๆอย่างนี้ก็เล่นเอาเงินในกระเป๋าแฟบกันไปเลยทีเดียว   วิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือแก้จากต้นเหตุ  สาเหตุที่เกิดขึ้น  ก่อนอื่นเราจะต้องรู้กันก่อนว่าสิวคืออะไร  มันเกิดขึ้นได้อย่างไร แล้วมีประเภทอะไรบ้างและมีวิธีใดบ้างที่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ ณ ที่นี้เราจะนำเสนอถึงวิธีที่จะทำให้คุณดูสวยใสไร้สิวด้วยวิธีทางธรรมชาติง่ายๆที่ทุกคนสามารถทำได้





หลายคนเข้าใจว่าสิวไม่ใช่โรคก็แค่ปัญหาเกี่ยวกับความงามชนิดหนึ่ง   แต่แท้จริงแล้วสิวนับว่าเป็นโรคอันมีสาเหตุจากการทำงานผิดปกติของต่อมไขมัน  กล่าวคือในกระบวนการปกติไขมันที่สร้างจากต่อมไขมันจะออกมาตามเส้นขน  เมื่อมีอะไรกีดขวางก็จะทำให้เกิดการอักเสบเป็นต้นตอของสิวประเภทต่างๆ  รูขุมขนที่ก่อให้เกิดการอักเสบนั้นไม่ใช่แค่เพียงใบหน้าเท่านั้นยังสามารถพบการเกิดของสิวที่หน้าอก  แขน  ขาและแผ่นหลังอีกด้วย
                สิวเป็นโรคที่เกิดขึ้นได้ทุกเพศทุกวัยแต่ส่วนใหญ่จะเริ่มเป็นตั้งแต่วัยรุ่นและพบมากในวัยรุ่นโดยเด็กผู้ชายเริ่มมีสิวอยู่ระหว่างอายุ  12-14 ปี ส่วนเด็กผู้หญิงฮอร์โมนเพศเริ่มเปลี่ยนแปลงอายุระหว่าง 9-12 ปี
จากนั้นสิวจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งอายุ  30 ปี สิวจึงค่อยๆบรรเทาอาการลง   เมื่อเกิดสิวขึ้นบนในหน้าเราจะสัมผัสได้ว่าที่ผิวหนังของเรามีตุ่มเม็ดเล็กๆ  บางครั้งอาจเห็นเป็นหนองสีขาวๆหรือเป็นสิวหัวสีดำ  ยิ่งถ้าเรามีเหงื่อหมักหมมมากก็จะทำให้สิ่งสกปรกต่างๆเกิดการแพร่กระจายมากขึ้นกลายเป็นหัวสิวขนาดใหญ่  ถ้าสิวแตกอาจเกิดรอยแผลเป็นหรือรอยหลุมลึกไว้ต้องใช้ระยะเวลาในการรักษานาน

สาเหตุที่ทำให้เกิดสิว
            กรรมพันธุ์: สิ่งที่ตกทอดผ่านกันมาทางสายเลือด  ซึ่งผู้ป่วยโรคสิวบางรายที่ไปพบคุณหมออาจผ่านประสบการณ์การซักถามจากคุณหมอในทำนองที่ว่าที่บ้านหรือบุคคลในครอบครัวเป็นสิวมากๆบ้างหรือเปล่า  ในเชิงทางวิชาการการแพทย์สำหรับคนที่ถ่ายทอดสายเลือดมาจากพ่อ  แม่ ปู่  ย่า  ตา  ยายที่เป็นสิวมากเจ้าตัวมีโอกาสได้รับสิทธิ์การเป็นสิวสูง
                ฮอร์โมน: ส่วนใหญ่เมื่ออายุเข้าสู่วัย  11-14 ปี ร่างกายจะสร้างฮอร์โมนชื่อแอนโดรเจนและเอสโตรเจนซึ่งมีส่วนเกี่ยวพันกับสิวจะเป็นตัวกระตุ้นต่อมไขมันให้ทำงาน
                แพ้อาหาร: บางทฤษฎีก็เชื่อว่าอาหารบางประเภทเช่น อาหารหวานจัด มันจัด เผ็ดจัดรวมถึงอาหารทะเลมีส่วนทำให้เกิดสิวเพราะอาหารดังกล่าวเข้าไปกระตุ้นต่อมไขมันให้ทำงานหนักและไขมันก็เป็นต้นเหตุของสิวและผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ก็แนะนำให้หลีกเลี่ยงอาหารข้างต้นรวมถึงน้ำอัดลม  ถึงแม้ว่าน้ำอัดลมจะไม่ได้ไปกระตุ้นต่อต่อมไขมันโดยตรงแต่แก๊สและสารที่ใส่ในน้ำอัดลมและอาหารบางประเภทอาจก่อให้เกิดอาการแพ้ทางเดินอาหารถูกรบกวนซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดสิวได้เช่นกัน
                ความผิดปกติของต่อมไขมัน: โดยเฉพาะต่อมสร้างไขมันบริเวณรูขุมขนที่มีอยู่ทั่วไปตามร่างกายซึ่งประโยชน์ของต่อมไขมันก็คือผลิตไขมันขึ้นมาหล่อเลี้ยงให้ผิวหนังชุ่มชื้นแต่ในรายที่ต่อมไขมันเกิดการอักเสบ  ทำให้ไขมันคั่งค้างอยู่ในรูขุมขนมากเกินไป  เมื่อทำปฏิกิริยากับเชื้อแบคทีเรียส่งผลให้เกิดการติดเชื้อเป็นหัวสิว  ตุ่มหนอง  ทั้งนี้ความรุนแรงของสิวจะขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันที่คั่งค้างในรูขุมขนว่ามากน้อยเพียงใด


ประเภทของสิว
                1.สิวไม่อักเสบ (Non-Inflammatory)
                เราอาจเรียกสิวในกลุ่มนี้ได้อีกอย่างว่ากลุ่มของสิวอุดตันคือ  เป็นสิวที่อุดตันอยู่ภายใต้รูขุมขนแต่ยังไม่เกิดการอักเสบแต่สามารถพัฒนาไปเป็นสิวอักเสบได้เช่นกัน   เราพบสิวในกลุ่มนี้ถึง  70% ในหมู่ปัญหาสิวของกลุ่มวัยรุ่นและสามารถพบสิวในลักษณะนี้ได้ทั่วไปตามร่างกายไม่ว่าจะเป็นใบหน้า  หน้าอก  แผ่นหลังหรือแม้แต่ศีรษะและลำคอ  
                         ·       สิวหัวปิดหรือสิวหัวขาด   เป็นก้อนไขมันที่อุดตันอยู่ภายใต้ผิวหนังจะสังเกตเห็นได้ว่ายังไม่มีหัวหนองเหมือนสิวอักเสบและรูเปิดท่อไขมันขนาดเล็กมาก   เมื่อสัมผัสจะรู้สึกว่ามีตุ่มนูนขึ้นมาจะเรียกว่า  โคมีโดน  แต่ไม่รู้สึกเจ็บ   หากบีบบ่อยๆจะกลายเป็นสิวอักเสบได้
·       สิวหัวเปิดหรือสิวหัวดำ   เป็นสิวที่มีขนาดใกล้เคียงกับสิวหัวปิดหรือสิวหัวขาว   เมื่อใช้มือสัมผัสจะรู้สึกว่าเป็นตุ่มนูนขึ้นมาแต่มีลักษณะภายนอกที่แตกต่างกัน   สิวประเภทนี้เมื่อใช้นิ้วลูบคลำจะไม่รู้สึกเจ็บแต่เมื่อสัมผัสบางครั้งจะรู้สึกเหมือนมีก้อน   เราพบสิวประเภทนี้บริเวณหน้าอก   แผ่นหลัง   บริเวณหน้าผาก  ระหว่างคิ้ว    เป็นต้น


สิวที่แก้ม

สิวที่หลัง

2.สิวอักเสบ (Inflammatory Acne)
                เป็นสิวที่มีลักษณะภายนอกสังเกตได้ง่าย  ระดับของการอักเสบก็มีอยู่หลายระดับถ้าอักเสบไม่มากอาจเห็นเป็นตุ่มบวมแดง   ตอนแรกๆสัมผัสจะรู้สึกได้ว่ามีของแข็งอยู่ใต้ผิวหนังและจะมีอาการเจ็บแต่ถ้ามันอักเสบมากก็จะมีหัวหนองสีขาวโผล่ขึ้นมา   เมื่อมันเกิดการอักเสบเพราะเกิดจากการอุดตันของน้ำมันบริเวณรูขุมขนและเชื้อแบคทีเรียบางชนิดทำให้เกิดการอักเสบ   เราแบ่งตามความรุนแรงออกเป็น  4 ชนิด คือ
                1.สิวนูนแดง   เกิดจากการที่เราไม่ได้ดูแลรักษาหรือเกิดจากการบีบสิวด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้องทำให้เชื้อโรคที่สกปรกเกิดการแพร่กระจายจนทำให้สิวเกิดการอักเสบ  เมื่อกดแล้วจะรู้สึกแข็งๆและจะรู้สึกเจ็บ
                2.สิวหัวหนอง   จะรุนแรงกว่าสิวนูนแดงเมื่อสัมผัสจะไม่ค่อยรู้สึกเจ็บมากนัก  เมื่อหนองแตกจะทิ้งรอยดำไว้เล็กน้อยซึ่งสามารถรักษาให้หายได้ไม่ยาก
                3.สิวหัวช้าง   เป็นสิวอักเสบขั้นรุนแรงพัฒนามาจากสิวหัวปิดที่เกิดจากการแตกรั่วทำให้เกิดการกระจายของเชื้อโรคและไขมันใต้ผิวหนัง   คนที่เป็นสิวหัวช้างจะรู้สึกเจ็บมากเวลาเอามือไปสัมผัสกับสิว   ถ้าสิวหัวช้างแตกก็จะมีหนองสีขาวเหลืองและเลือดไหลออกมาทำให้เกิดรอยแผลเป็นหลุมลึกขนาดใหญ่
                4.สิวซีสต์   เป็นสิวอักเสบขั้นรุนแรงที่มีลักษณะคล้ายถุงอยู่ใต้ผิวหนังที่เกิดจากไขมันอุดตันอยู่ภายใต้ผิวหนังแล้วเกิดอักเสบติดเชื้อบางครั้งสิวชนิดนี้อาจเกิดพร้อมกับสิวหัวช้างทำให้การอักเสบมากขึ้น   เมื่อสิวหายมักจะทิ้งร่องรอยแผลเป็นที่รักษาให้หายได้ยาก ต้องใช้ระยะเวลานานจึงจะกลับสู่สภาพเดิม



วิธีปฏิบัติตน
                                   1.การพักผ่อนให้เพียงพอ   ถือเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างภูมิต้านทานภายในร่างกายของเราได้เพราะช่วงที่เรานอนหลับร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนออกมาเพื่อเสริมสร้างและซ่อมแซมเซลล์ต่างๆเพื่อทำให้ผิวเปล่งปลั่งดูอ่อนเยาว์   เราจึงควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการนอนคือ   ช่วงเวลาไม่เกิน 23.00 น. ถ้าเป็นไปได้ควรเข้านอนในช่วงเวลาประมาน 20.30- 22.00 . จะดีที่สุด
                                      เทคนิคที่ช่วยให้นอนหลับสนิท
      ·       งดรับประทานเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนก่อนนอน   เพราะคาเฟอีนจะกระตุ้นให้ร่างกายเกิดความตื่นตัวและนอนไม่หลับ   ควรงดออกกำลังกายในช่วงดึกเพราะร่างกายตื่นตัวจนเกินไปและเป็นสาเหตุที่นอนไม่หลับเช่นกัน
      ·       ใช้กลิ่นช่วยให้ผ่อนคลาย   การใช้กลิ่นบำบัดจะช่วยให้เราผ่อนคลายความเครียด  รู้สึกสงบและช่วยให้สามารถหลับได้ดีขึ้น




           2.การผ่อนคลายความเครียด
ความเครียดเป็นปัจจัยสำคัญลำดับแรกๆที่กระตุ้นให้เกิดสิวทุกครั้งที่เราเกิดความเครียด  ฮอร์โมนต่างๆในร่างกายจะแปรปรวนส่งผลให้ต่อมไขมันใต้ผิวหนังผลิตน้ำมันออกมาอย่างรวดเร็วทำให้เกิดการอุดตันในรูขุมขนมากเกินไปจะเป็นต้นเหจุของการเกิดสิวได้และทุกครั้งที่เกิดความเครียด   เส้นเลือดฝอยบนใบหน้าจะตึงทำให้ใบหน้าเกิดริ้วรอยก่อนวัย   ดังนั้นเราจึงควรผ่อนคลายตัวเองจากสภาวะการเครียดจากสาเหตุต่างๆให้ได้เร็วที่สุด
          เทคนิคที่ช่วยในการผ่อนคลายความเครียด
·       การออกกำลังกาย   เป็นวิธีที่สามารถช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายจากความเครียดอย่างได้ผลเพราะทุกครั้งที่เราออกกำลังกายร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนเอนโดฟินขึ้นมาช่วยให้เรารู้สึกกระปรี้กระเปร่าและทำให้เราลืมเรื่องเครียดไปอย่างน้อยชั่วระยะหนึ่ง
·       การรับประทานอาหารที่ช่วยลดความเครียด   เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยในการผ่อนคลายความเครียดได้โดยเฉพาะสารอาหารที่เรารับประทานไปซึ่งสารอาหารที่มีส่วนช่วยในการลดความเครียดได้แก่  วิตามินบีต่างๆ  วิตามินซี   แคลเซียม  ซึ่งสารอาหารเหล่านี้จะเป็นสารอนุมูลอิสระที่สำคัญในร่างกายจะช่วยบรรเทาอาการจากความเครียด



วิธีบำรุงผิวและแก้ปัญหาสิวแบบธรรมชาติ


                  สูตรรักสิวอักเสบด้วยขมิ้นชันสด ดินสอพองและน้ำมะนาว
                ส่วนผสม  :  ขมิ้นชันสด ½ แง่ง   ดินสอพอง 3 เม็ด มะนาว 1 ผล
                วิธีทำ        :   นำขมิ้นสดมาล้างและหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ นำไปปั่นรวมกับดินสอพองและน้ำมะนาวจนเข้ากันเป็นเนื้อครีมข้น
                วิธีใช้        ล้างหน้าและชำระร่างกายให้สะอาด ซับหน้าและเช็ดตัวให้แห้ง นำส่วนผสมที่ผสมไว้มาแต้มบนใบหน้าและลำตัวบริเวณที่อักเสบ เว้นบริเวณรอบดวงตาทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที จากนั้นจึงล้างออกด้วยน้ำอุ่นใช้สำลีชุบน้ำอุ่นหมาดๆ เช็ดบริเวณที่ทาส่วนผสมไว้ให้สะอาดแล้วจึงใช้น้ำเย็นล้างหรือใช้สำลีชุบน้ำเย็นเช็ดบริเวณผิวอีกครั้งเพื่อเป็นการกระชับ
                การรักษาสิวด้วยวิธีนี้ เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวธรรมดาหรือผิวมันจะช่วยลดความมันบนใบหน้าที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิวอุดตันและสิวอักเสบได้ดี



                สูตรรักษาสิวอักเสบด้วยน้ำมะนาว
                ส่วนผสม  :   มะนาวสด 1 ผล
                วิธีทำ         นำมะนาวสดมาแล้วบีบเอาแต่น้ำและแยกเอาเมล็ดออก
                วิธีใช้         :   ล้างหน้าและชำระร่างกายให้สะอาดซับหน้าและเช็ดตัวให้แห้งใช้สำลีพันปลายไม้และจุ่มน้ำมะนาวสดที่เตรียมไว้ นำสำลีมาทาบริเวณรอบๆที่เกิดสิวอักเสบ โดยทำทุกๆครึ่งชั่วโมงติดต่อกันตลอดวัน ตอนกลางคืนให้ทาทิ้งไว้ ตื่นเช้าใช้วิธีการเดิมทำต่อเนื่องกัน 1-2 วันจะช่วยให้สิวอักเสบที่เป็นสิวหนองยุบลง
                สูตรนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวมันหรือผิวธรรมดาช่วยลดความมันและล้างสิ่งสกปรกที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิวและมะนาวจะช่วยกระชุบรูขุมขนช่วยให้ใบหน้าดูกระจ่างใสและสดชื่น

                สูตรรักษาสิวอุดตันและสิวเสี้ยนด้วยน้ำมันมะพร้าว
                 ส่วนผสม  น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น 1 ช้อนชา
                 วิธีทำ        ใช้น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นสำเร็จรูปได้เลย ไม่ต้องผสมกับส่วนผสมอื่นๆ
                 วิธีใช้        ล้างหน้าให้สะอาด ซับหน้าให้แห้ง นำน้ำมันมะพร้าวปริมาณ 1 ช้อนชา เทใส่ฝ่ามือ ทาให้ทั่วใบหน้าเว้นรอบดวงตาทิ้งเอาไว้ทั้งคืน แล้วล้างออกในตอนเช้าด้วยน้ำสะอาดหรือถ้าใช้ในตอนเช้าให้ทาตอนหน้าแห้ง ทิ้งไว้ 15-20 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยสบู่
                 สูตรนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งหรือผิวบอบบาง  หากมีอาการระคายเคืองในการใช้ให้ล้างออกด้วยน้ำสะอาดและซับหน้าให้แห้งไม่ต้องทาทิ้งไว้ทั้งคืน   นอกจากจะใช้ทาหน้าก่อนนอนแล้ว  น้ำมันมะพร้าวยังสามารถใช้เช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางก่อนล้างหน้าไดด้วย  โดยใช้สำลีชุบน้ำมันมะพร้าวไม่ต้องชุ่มมาก แล้วเช็ดให้ทั่วบริเวณที่ทาเครื่องสำอางจะช่วยเช็ดเครื่องสำอางได้อย่างหมดจด

                 ปัญหาสิวบนใบหน้าถึงแม้ว่าจะเกิดมาจากหลายสาเหตุหลายปัจจัย  แต่เราก็สามารถที่จะควบคุมดูแลเพื่อป้องกันและรักษาใบหน้าไม่ให้เกิดสิวได้  อย่างเช่น  การใส่ใจเรื่องอาหาร  เรื่องการปฏิบัติตน  การทำอย่างไรไม่ให้เครียดและการดูแลใบหน้าด้วยสมุนไพรตามธรรมชาติ  เคล็ด(ไม่)ลับง่ายๆ  เรื่องนี้ทุกคนสามารถทำได้ไม่ยากถึงแม้ว่าจะไม่หาย



จัดทำโดย
นางสาวณัฐธิดา  แสงณรงค์
เลขที่ 17 ชั้น ม.5/1
โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาภาคใต้

อ้างอิง

ดร.ปณิธิ   พุทธกรุณา.(2537)  เรื่องสิว สิว.  พิมพ์ครั้งที่ 2.  ยูโรปา เพรส บริษัท จำกัด :
                สำนักพิมพ์มายิก. กรุงเทพฯ.
ศิรณา   เภาเอี่ยม.(2556).  “สิวขี้ประติ๋วว่ะ.  พิมครั้งที่ 5. บริษัท พี เอ็น เค
                สกายพริ้นติ้งส์ จำกัด : สำนักพิมพ์คลื่นอักษร  บริษัท เพชรประกอบ จำกัด.กรุงเทพฯ.
พิณ  เกื้อกูลวิธีรักษาสิวตามธรรมชาติ [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จากhttp:  acnecaresite.blogspot.com
             








1 ความคิดเห็น:

ใช้คู่กับ น้ำมันมะพร้าว ได้ดีเลยค่ะ

แสดงความคิดเห็น

About this blog

Research & Knowledge Formation

Blog Archive