ศูนย์วิวัฒน์พลเมือง
“ …คนเราเมื่อขาดที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจแล้ว
จะเกิดความว้าวุ่น
พอมีความทุกข์จะหันหน้าเข้าคว้าเอาสิ่งที่เป็นอันตรายต่อชีวิตของตน
เพื่อให้ลืมเรื่องเฉพาะหน้าชั่วคราว เช่น ยาเสพติด เพราะยาเสพติดทำให้คนมึนเมา
ขาดสติสัมปชัญญะ
มักประพฤติแต่ความชั่วเปรียบเสมือนปลาติดเบ็ดยากนักที่จะหลุดพ้นไปได้… ”
ความตอนหนึ่งในพระราชดำรัส
ในพิธีเปิดโครงการวันแม่
เสพยาเสพติดยาบ้าก็โง่
ณ
หอประชุมโรงเรียนเซนต์คาเบรียล
วันที่ 4 ตุลาคม 2515
สถิติของผู้ติดยาเสพติด
“
ปัญหายาเสพติด ”
เป็นปัญหาใหญ่ของสังคมไทยในปัจจุบัน
บรรดาผู้ติดยาเสพติดเหล่านั้นการเสพสารครั้งแรกอาจมีสาเหตุหลายอย่าง เช่น
เพื่อนชักชวน การอยากลอง อยากมีประสบการณ์แปลก ๆ รักสนุก
คิดว่าทำแล้วเท่หรืออาจะเกิดเพราะปัญหาครอบครัว เป็นต้น
เมื่อตกอยู่ภายใต้อำนาจของยาเสพติดเหล่านี้ผู้เสพจะมีความรู้สึกเคลิบเคลิ้มเหมือนว่าอยู่อีกโลกหนึ่งที่แตกต่างจากโลกแห่งความจริง
สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงแค่ความรู้สึกชั่วคราวที่เกิดจากฤทธิ์ของยาเสพติด
ซึ่งจะหายไปเมื่อยาหมดฤทธิ์ ดังนั้นในขณะที่ใช้ยาจึงมักขาดสติ
เหตุผลและความยั้งคิดและอาจก่อเรื่องดังที่มีข่าวอาชญากรรมที่เกิดขึ้นรายวัน
ผู้ที่ติดยาเสพติดจึงเปรียบเหมือนระเบิด คือจะระเบิดออกมาเมื่อไหร่ก็ได้
เมื่อระเบิดแล้วก็ก่อปัญหาทั้งต่อตัวเองและสังคม
การใช้ยาเสพติดส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมและสังคมต่างประเทศ
โดยเฉพาะในกรณียาอีและยาเค ดังนั้นครอบครัวจังเป็นปัจจัยสำคัญที่จะปลูกฝังภูมิคุ้มกันยาเสพติดให้แก่เยาวชนของชาติ
หมั่นสอดส่องดูแลให้ความเข้าใจและความอบอุ่นแก่บุตรหลานของท่านภายใต้กฎหมาย
จากสถานการณ์ในปัจจุบันพบว่ามีการแพร่ระบาดของยาเสพติดอย่างกว้างขวางและรุนแรงมากขึ้นก่อความสูญเสียกับประเทศชาติหลายด้านด้วยกันทั้งด้านกำลังคน
ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคมและด้านการเมืองการปกครอง
จากการประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติดพบว่ายาเสพติดที่มีการแพร่ระบาดย่างมากในประเทศไทย
ได้แก่ เฮโรอีนและยาบ้า (แอมเฟตามิน) พื้นที่ที่มีปัญหาเฮโรอีนรุนแรง ได้แก่
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ ส่วนการแพร่ระบาดของยาบ้ามีมากในภาคกลาง
โดยเฉพาะในกลุ่ม
นักเรียน
นักศึกษาและจากการรวบรวมสถิติของสำนักงาน ป.ป.ส. พบว่า พ.ศ. 2533 มีนักเรียน นักศึกษา
สมัครใจเข้ารับการบำบัดรักษาจำนวน 447 คน
และมีจำนวนมากขึ้นทุกปี จนในปี พ.ศ. 2540
พบว่ามีจำนวนถึง 6,542 คนและจากการสำรวจเพื่อประมาณการจำนวนนักเรียน
นักศึกษาที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดตั้งแต่ระดับประถมศึกษาปี่ที่ 5 – ปริญญาตรี ในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงมะหาดไทยในปี 2542 โดยสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ พบว่าจากนักเรียน นักศึกษาจำนวน 5,365,942
คนทั่วประเทศมีนักเรียน นักศึกษาที่เกี่ยวกับยาเสพติดถึง 633,290
คนหรือคิดเป็นร้อยละ 12.4
ที่มาของศูนย์พลเมือง
(บังคับบำบัด) พล.ร. 5
รัฐบาลได้กำหนดแนวทางการเอาชนะยาเสพติดด้วยการตัดวงจรปัญหา
3 วงจร ได้แก่ ควบคุมตัวยาเสพติด
แก้ปัญหาผู้ติดยาเสพติดและป้องกันการติดยาเสพติด
โดยในส่วนของทางการแก้ปัญหาผู้ติดยาเสพติดได้ตัดวงจรผู้เสพออกจากผู้ค้าด้วยการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดตามพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด
พ.ศ. 2545 โดยสาระสำคัญ
คือ
ทำลายโครงสร้างของปัญหายาเสพติดโดยการแยกผู้ติดยาเสพติดออกมาบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพทั้งโดยระบบสมัครใจและระบบบังคับบำบัด
ตลอดจนให้มีการติดตามช่วยเหลือและให้กำลังใจแก่ผู้ที่ผ่านการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพเพื่อกลับคืนสู่ครอบครัว
ชุมชนและสามารถดำรงชีวิตได้อย่าปกติสุขควบคู่ไปกับการพัฒนาศักยภาพ
โดยการใช้ทรัพยากรของหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งของราชการและเอกชน
เพื่อให้ผู้เสพยาเสพติดมีโอกาสได้รับการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพและคุณภาพอย่างทั่วถึง
รวมทั้งกำหนดให้ทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน
ยึดถือว่าการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นภารกิจเร่งด่วนและเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบที่จะต้องร่วมกันแก้ปัญหาให้สำเร็จผล
ลักษณะการติดยา
มีอยู่ 2 ลักษณะ ดังนี้
1.
การติดโดยร่างกาย
หมายถึง สภาวะที่ร่างกายทำหน้าที่ภายใต้อิทธิพลของยาจนเคยชิน
เมื่อหยุดใช้ยาร่างกายจะทำหน้าที่ดังเดิมไม่ได้และเกิดอาการขาดยา หรือลงแดง (Withdrawal symptoms) รุนแรง
ซึ่งมักเป็นอาการตรงข้ามกับผลของยาและเมื่อได้รับยาเดิมอาการก็จะหายไป
2.
การติดโดยจิตใจ
หมายถึง ผู้ใช้พึงพอใจกับผลและความรู้สึกที่เกิดจากยา
เมื่อหยุดใช้ยามักไม่เกิดอาการขาดยา
หรืออาการไม่รุนแรงแต่จะมีความรู้สึกอยากและพยายามแสวงหา
ยาบ้าทำให้ติดยาได้ทั้งร่างกายและจิตใจ
โดยอาการขาดยาบ้า ได้แก่ อ่อนเพลีย หมดเรี่ยวแรง หิวจัด
นอนหลับลึกและยาวนานตั้งแต่ 24
– 48 ชั่วโมง ซึมเศร้า หดหู่ วิตกกังวล อาการทางจิตประสาท
อย่างไรก็ตามอาการเหล่านี้ไม่ใช่ข้ออ้างสำหรับการใช้ยาบ้าต่อไป
เพราะการเลิกยาบ้าเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ถาวรและดีกว่ามาก
เมื่อเลิกยาบ้าได้สุขภาพร่างและจิตใจจะดีขึ้น สามารถแสวงหาความสุขอื่นได้อีก
ส่วนยาอีมีคุณสมบัติส่วนใหญ่เหมือนยาบ้า
จึงทำให้เกิดการติดยาได้และมีลักษณะของการติดยาคล้ายกับยาบ้าแต่การติดยาอียังไม่แพร่หลายเหมือนยาบ้า
ยังจำกัดในวงสังคมขั้นสูง เนื่องจากหาซื้อยากและราคาแพงมาก เนื่องจากการใช้ยาเค
ส่วนใหญ่มักใช้เป็นครั้งคราว ดังนั้นข้อมูลเกี่ยวกับการติดยาเคยังมีจำกัดแต่ยานี้มีคุณสมบัติพื้นฐานคล้ายยาเสพติด
โดยทั่วไปจึงคาดว่าทำให้เกิดการติดยาได้
เป้าหมายของศูนย์วิวัฒน์พลเมือง
1.
ผู้ผ่านการฟื้นฟูฯ
ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก
2.
ผู้ผ่านการฟื้นฟูฯ มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
มีระเบียบวินัยดี มีทักษะในการแก้ไขปัญหามากยิ่งขึ้น เป็นที่ยอมรับและอยู่ร่วมในสังคมได้เป็นอย่างดี
3.
ผู้ผ่านการฟื้นฟูฯ
มีทักษะด้านวิชาชีพ สามารถนำไปประกอบอาชีพได้
วิสัยทัศน์ศูนย์วิวัฒน์พลเมือง
“ ศูนย์วิวัฒน์พลเมืองเป็นศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดระบบบังคับบำบัด
โดยวิธีการควบคุมตัวแบบไม่เข้มงวดที่มุ่งเน้นการพัฒนากระบวนการบำบัดฟื้นฟูให้ผู้ผ่านการบำบัดฟื้นฟูคืนสู่การเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพของสังคม
เลิกยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด มีสมรรถภาพร่างกายที่แข็งแรง
มีระเบียบวินัยและทักษะวิชาชีพ สามารถอยู่ร่วมกับสังคมได้เป็นอย่างดี ”
การดำเนินงาน
พล.ร.5 (กองพลทหารราบที่ 5)
จัดตั้ง กอ. ศูนย์วิวัฒน์พลเมือง (บังคับบำบัด) พล.ร.5 เป็นสถานที่เพื่อทำการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดโดยวิธีการควบคุมอย่าเข้มงวดและกองบังคับการศูนย์ฯ
(บก.ศูนย์) มีหน้าที่ควบคุมอำนวยการติดต่อประสานงานและกำกับดูแล
กำบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด (ผู้ป่วย)
ที่ผ่านการพิจารณาของอนุกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ตอกยาเสพติดประจำเขตพื้นที่ตามที่กรมคุมประพฤติกำหนดเป้าหมายมาเข้ารับการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาในลักษณะระบบบังคับบำบัด
(แบบไม่เข้มงวด) โดยในแผนปีงบประมาร 2555 กอ.ศูนย์ฯ
จะดำเนินการรับผู้ติดยาเสพติดที่ถูกจับกุมและศาลพิจารณาตัดสินให้เป็นผู้ป่วยเข้ามาบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพ
ทั้งนี้เนื่องจากหน่วยทหารเป็นหน่วยงานที่มีความพร้อมมากที่สุด โดยให้จัดตั้งเป็นศูนย์บำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด
โดยใช้ชื่อว่า “ ศูนย์วิวัฒน์พลเมือง กองพลทหารราบที่ 5
(บังคับบำบัด) ค่ายเทพสตรีศรีสุนทร อำเภอทุ่งสง
จังหวัดนครศรีธรรมราช ” จึงให้ดำเนินการ ดังนี้
1.
การจัดหน่วยและสายการบังคับบัญชา
1.1 พัน.สร.5 จัดตั้งแผนกบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด (ผู้ป่วย) ในขั้นต้น
1.2 ป.พัน.15 จัดตั้งแผนกฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด
มีหน้าที่ฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายและจิตใจให้กับผู้ติดยาเสพติด (ผู้ป่วย)
เลิกการเสพยาโดยเด็ดขาด เพื่อส่งคืนคนดีกลับสู้ชุมชนและสังคม
2. อัตราการจัดกำลังพล
3. ตารางการฝึกอบรมฯ
4. รายชื่อผู้เข้ารับการบำบัด/ฟื้นฟูฯ
5.
ห้วงเวลาการดำเนินการในแต่ละรุ่นใช้เวลาตามปกติ จำนวน 120 วัน
6. ขั้นตอนการดำเนินงาน
6.1 ขั้นการบำบัดรักษา (พัน.สร.5) ดำเนินการบำบัดรักษาอาการติดยาผู้เสะยาเสพติด(ผู้ป่วย)
ในขั้นต้นใช้ระยะเวลา 30 วัน
6.2 ขั้นฟื้นฟูสมรรถภาพ (ป.พัน.15)
หลังจากได้รับการบำบัดแล้วจะต้องเข้ารับการฟื้นฟูสภาพทางร่างกายและจิตใจ
เพื่อทำให้ผู้ติดยาเสพติด (ผู้ป่วย) เลิกเสพยาเสพติดอย่าเด็ดขาดใช้ระยะเวลา 90
วัน
แนวทางในการปฏิบัติ
1.
บำบัดรักษาผู้ติดยา
(ผู้ป่วย) จนไม่มีอาการติดยา
2.
ปัญหาผู้ติดยาเสพติดในพื้นที่เป้าหมายลดลงและหมดไปในที่สุด
3.
สภาพครอบครัว
ชุมชนและสังคมในพื้นที่เป้าหมายมีความเข้มแข็ง
มีความรักความสามัคคีอยู่ร่วมกันได้อย่างปกติสุข
กรอบแนวทางหลัก
ยึดถือแนวทางตามคู่มือการบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาในระบบบังคับรูปแบบ
FAST MODEL โดยมีโครงการหลักสูตร คือ
A : กิจกรมทางเลือก
|
F : ครอบครัว
|
FAST MODEL
|
S : การช่วยเหลือ
|
T
: ชุมชนบำบัด
|
วิชาและกระบวนการในการบำบัด
-
วิชาทหารเบื้องต้น
เพื่อให้นักเรียนมีระเบียบวินัย
มีความอดทนอดกลั้น ความเสียสละและความสามัคคีในหมู่คณะ
-
วิชาอุดมการณ์ประชาธิปไตย
เพื่อให้นักเรียนมีความรู้เรื่องการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
การบริหารงานแผ่นดิน ตลอดจนการศึกษาประวัติศาสตร์ชาติไทย
เพื่อปลูกฝังอุดมการณ์ความรักชาติและหวงแหนแผ่นดินและโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่เป็นประโยชน์ต่อการดำรงชีวิต
เช่น ทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง
-
กระบวนการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
(Self-Help)
การบวนการช่วยเหลือซึ่งกันและกันให้ผู้ป่วยเรียนรู้และบำบัดรักษาทางกาย
จิต สังคม สามารถมีพลังรักษาอย่างเข้มแข็ง โดยปรับสภาพทั้งพฤติกรรม
เจตคติความรู้สึกและการสร้างสัมพันธภาพจนสามารถอยู่ได้อย่าปกติสุขและปลอดยาเสพติด
-
กระบวนการชุมชนบำบัด
(Therapeutic
Community)
กระบวนการชุมชนบำบัดเป็นอชรูปแบบหนึ่งของการบำบัดรักษาที่สำคัญในขั้นฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดที่ให้สมาชิกฝึกการพัฒนาตนเอง
โดยการมาอยู่ร่วมกันเหมือนเป็นครอบครัวขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นมาใหม่
เพื่อให้สมาชิกสามารถเปลี่ยนแปลงและพัฒนาตนเอง
ทั้งสภาพร่างกายและจิตใจสามารถกลับไปดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างปกติสุข
-
กระบวนการบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดแบบเข้มข้นทางสายใหม่
(FAST MODEL)
· กิจกรรมการมีส่วนร่วมของครอบครัว
ครอบครัวมีส่วนร่วมตั้งแต่เริ่มการบำบัดรักษาและรับผิดชอบดูแลควบคู่ไปกับการอยู่ในครอบครัว
สังคม ชุมชนตามสภาพที่เป็นอยู่จริงประกอบด้วย
1.
Family
Education เป็นวิธีการจัดกิจกรรมมีส่วนร่วมของครอบครัว
โดยการปูพื้นฐานความรู้ที่ครอบครัวต้องทราบเจตคติความเข้าใจเกี่ยวกับการทำหน้าที่ของครอบครัว
สามารถเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดและทักษะในด้านการป้องกันและบำบัดรักษายาเสพติดระดับครอบครัวได้
2.
Family
Counseling เป็นวิธีการให้คำปรึกษา
โดยการนำครอบครัวมาเข้าร่วมกลุ่มกัน เพื่อให้ครอบครัวได้ระบายความรู้สึก
และเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ร่วมกัน ช่วยเหลือและสนับสนุนซึ่งกันและกัน
เพื่อให้สมาชิกหรือผู้ติดยาเสพติดกลับสู้สังคมได้อย่างเหมาะสม
3.
Family Therapy เป็นวิธีการบำบัดที่รวมเอาบุคคลที่มีความสัมพันธ์
ความผูกพันในฐานะเป็นครอบครัวมาร่วมด้วย เพื่อขจัดความขัดแย้งในครอบครัว
ช่วยให้ครอบครัวมีพลังต่อการแก้ปัญหาและทำให้ครอบครัวมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น
·
การใช้กิจกรรมทางเลือก
(Alternative
Treatment) ในการบำบัดฟื้นฟูที่เหมาะสมกับผู้ป่วยตามสภาพความเป็นจริงของผู้ป่วย
เพื่อแสดงออกซึ่งสิ่งที่ตนเองสนใจในด้านต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม
ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์และพัฒนาศักยภาพของตนเองได้อย่างเต็มความสามารถ
เพื่อเป็นการปลูกฝังเยาวชนให้มีความรัก ความผูกพัน มีส่วนร่วมรับผิดชอบและทำประโยชน์ให้แก่โรงเรียน
ชุมชน สังคมและประเทศชาติ
-
วิชาสุขภาพอนามัย
เพื่อให้นักเรียนได้มีความรู้ถึงวิธีป้องกันโรคติดต่อ
การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ตลอดจนการตรวจสุขภาพพลานามัย
รวมทั้งการรณรงค์ป้องกันเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่
การจัดการแข่งขันกีฬาภายในเสริมสร้างความสามัคคีในหมู่คณะ
-
วิชาศีลธรรมและจริยธรรม
เพื่อให้นักเรียนได้สวดมนต์ฝึกจิตให้สงบด้วยการปฏิบัติธรรมและนั่งสมาธิ
เรียนรู้การดำเนินชีวิตด้วยหลักพุทธศาสนาและร่วมกิจกรรมในวันสำคัญทางพุทธศาสนา
ร่วมกิจกรรมแสดงตนเป็นพุทธมามกะ รวมทั้งกิจกรรมวันสงกรานต์ เพื่อสืบทอดประเพณีที่ดีงามของประเทศ
-
ฝึกวิชาชีพ
ทำการฝึกวิชาชีพต่าง ๆ
สำหรับนำความรู้ที่ได้รับไปประกอบอาชีพและสร้างรายได้
ภายหลังจากการพันธนาการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดแล้ว
· โต๊ะปูกระเบื้อง
· รากไม้ประดิษฐ์
· ชาใบหม่อน
· เกษตรกรรม
· หัตถศิลป์
· พวงกุญแจกิ่งมะขาม
· กรอบรูปวิทยาศาสตร์
· เลี้ยงปลาในบ่อพลาสติก
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1. ผู้ติดยาเสพติดในพื้นที่เป้าหมายจะได้รับการบำบัดรักษาจนไม่มีอาการติดยาและฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายและจิตใจให้เลิกเสพยาเสพติดอย่างเด็ดขาด
เพิ่มจำนวนมากยิ่งขึ้น
2. ผู้ติดยาเสพติดสามารถดำเนินชีวิตในชุมชนและสังคมได้อย่างมั่นใจและปกติสุข
โดยไม่กลับไปใช้ยาเสพติดอีก
3. ปัญหาผู้ติดยาเสพติดในพื้นที่เป้าหมายลดลงและหมดไปในที่สุด
4. สภาพครอบครัว
ชุมชนและสังคมในพื้นที่เป้าหมายถึงความเข้มแข็ง มีความรักสามัคคีอยู่ร่วมกันได้อย่างปกติสุข
ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาใหญ่ในประเทศไทยหรือแม้แต่ระดับโลก
โดยปัจจัยในการเริ่มทดลองเสพนั้นมาจากครอบครัว เพราะในบางครอบครัวนั้นไม่มีความรัก
ความเข้าใจ มีแต่ความรุนแรงของพ่อแม่ ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ดังนั้นการบำบัดยาเสพติดของผู้เสพนั้นควรมาจากจุดเล็ก
ๆ คือครอบครัวที่มีการอบรมสั่งสอนที่ดี
เพื่อไม่ให้เกิดการเริ่มเสพและควรให้ความรัก ความเข้าใจซึ่งกันและกัน
เพื่อครอบครัวที่อบอุ่นและสังคมที่ขาวสะอาด
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น