จากฝันสู่ฝัน

คนเราทุกคนต่างก็นอนหลับฝันกันทั้งนั้น แต่มีเพียงบางคนเท่านั้นที่จำความฝันของตัวเองได้ หลายๆ คนต่างพยายามทำความเข้าใจกับความฝัน และบรรดานักวิจัยก็กำลังพยายามอย่างหนัก เพื่อที่จะเข้าใจความหมายของความฝันเหล่านั้น
คุณเคยฝันกันบ้างรึเปล่า แล้วเคยสร้างภาพและเรื่องราวในยามหลับกันบ้างรึเปล่า? วันนี้ เราจะมาท่องโลกความฝันไปด้วยกัน


ความฝัน คือการแสดงออกของความนึกคิด ความรู้สึก และเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในสมอง ในขณะที่เรากำลังนอนหลับอยู่ คนเรามักจะฝันกันคืนละสองสามครั้ง หรืออาจจะฝันกันได้ถึงคืนละสี่ ถึง หก ครั้งเลยทีเดียว ทุกคนต่างก็นอนหลับฝัน แต่มีเพียงบางคนเท่านั้นที่จดจำความฝันของตัวเองได้
คำว่า "ฝัน" มาจากคำเก่าในภาษาอังกฤษ ซึ่งมีความหมายว่า ความยินดี และเสียงดนตรี ความฝันของคนเรามักจะรวมถึงรูป รส กลิ่น เสียง และสิ่งที่เราสัมผัสได้ บางครั้งเราอาจฝันเรื่องเดิมๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งมักไม่ใช่เรื่องที่น่าประทับใจนัก หรืออาจจะเป็นฝันร้าย หรือแม้แต่เรื่ององที่น่ากลัวก็เป็นได้


ในบางครั้ง บรรดาศิลปิน และนักเขียน บอกว่าพวกเขาได้แนวคิดต่างๆ จากความฝัน ตัวอย่างเช่นนักร้องที่ชื่อ Paul McCartney แห่งวง The Beatles ที่เล่าว่า ในวันหนึ่งเขาตื่นขึ้นมา พร้อมกับเสียงดนตรีของเพลง "Yesterday" อยู่ในหัวของเขา ส่วนนักเขียน Mary Shelley  บอกว่า เธอมีความฝันที่รุนแรง เกี่ยวกับนักวิทยาศาสตร์ ที่ใช้เครื่องจักรทำให้สัตว์โลกชนิดหนึ่งคืนชีพได้ เมื่อเธอตื่นขึ้นมา จึงเริ่มเขียนหนังสือเกี่ยวกับนักวิทยาศาสตร์ที่ชื่อ "Frankenstein" ที่สร้างให้สัตว์ประหลาดมาต่อสู้กัน


บรรดานักวิยาศาสตร์ได้ทำการศึกษาวิจัยอย่างเอาจริงเอาจัง เกี่ยวกับความฝีน สมาคมการศึกษาเรื่องความฝันนานาชาติ จัดการประชุมขึ้นเป็นประจำทุกปี  และสำหรับปีนี้ การประชุมจะมีขึ้นในเดือนนี้ ที่นครชิคาโก้ รัฐอิลลินอยส์ ศาสตราจารย์ชาวออสเตรเลีย Robert Moss จะชี้แจงว่าความฝันต่างๆ มีอิทธิพลต่อประวัติศาสตร์อย่างไรบ้าง ตัวอย่างเช่น Harriet Tubman ที่สามารถช่วยทาสชาวอเมริกัน ให้หนีเป็นอิสระได้ เพราะเธอฝันเห็นตัวเองบินได้เหมือนนก และศาสตราจารย์ Robert Moss ยังเป็นหลักสูตรสอนให้คนเข้าใจความฝันทางอินเตอร์เนตด้วย


นักวิจัย Rosalind Cartwright กล่าวว่า นี้การศึกษาเกี่ยวกับความฝันกำลังเปลี่ยนไป เพราะปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์หันไปศึกษาว่า ทำไมคนบางคนจึงมีปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับกันมากขึ้น เธอบอกว่า สำหรับผู้ที่นอนหลับสนิท ความฝันช่วยให้พวกเขาสามาถควบคุมอารมณ์ในระหว่างวัน นักวิจัยกำลังพยายามที่จะทำความเข้าใจว่า ความฝันมีความสำคัญต่อผู้ที่นอนไม่หลับ หรือหลับๆ ตื่นๆ ในตอนกลางคืน อย่างไรบ้าง?   

นอกจากนี้ยังมีนักวิจัยอีกหลายคน ที่กำลังศึกษาว่า ความฝันสามารถช่วยให้คนเรารับมือกับปัญหาต่างๆ ความเศร้า และอารมณ์ของคนเราได้อย่างไร นักวิทยาศาสตร์หลายๆ คนเชื่อว่า การศึกษาวิจัยเกี่ยวกับความฝันเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง



ดังนั้น จะเห็นได้ว่าหากคนเรามีความฝันแล้วรู้จักนำความฝันมาวิเคราะห์หาเหตุแห่งฝัน นำมาประยุกต์ให้ให้เกิดสิ่งใหม่ที่ใครๆยังต้องอึ้ง เพียงแค่นี้เราก็จะประสบความสำเร็จได้ไม่อยาก

ดังคำกล่าวที่ว่า หากคุณมีความฝันสิ่งแรกที่ควรทำคือ ตื่นเสียก่อน


 อ้างอิง http://www.voathai.com/content/a-47-2009-06-06-voa1-90653159/923157.html

นางสาว จุฑามาศ เหล็กเพชร ม5/1 เลขที่ 14

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

About this blog

Research & Knowledge Formation

Blog Archive