เล่าเรื่องกาแฟ



ตั้งแต่สมัยโบราณมนุษย์เรารู้จัก กาแฟ มาเป็นเวลามากกว่าพันปีแล้วจนกระทั่งในปัจจุบันกาแฟนับเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมที่ผู้คนนิยมดื่มกันทั่วโลก กาแฟเป็นเครื่องดื่มที่ทำมาจากเมล็ดกาแฟคั่วซึ่งก็ได้จากต้นกาแฟนั่นเอง กาแฟที่เราบริโภคกันอยู่นั้นมีทั้งแบบร้อนและแบบเย็นแต่คนมักนิยมดื่มแบบเย็นมากกว่า ในกาแฟมีสารที่เรียกว่า คาเฟอีน ซึ่งมีฤทธิ์กระต้นให้สมองตื่นตัว รู้สึกกระปรี้กระเปร่านั่นเป็นเหตุผลต้นๆที่คนนิยมดื่มกาแฟกัน แล้วคุณรู้หรือไม่ว่ากาแฟที่คุณดื่มกันอยู่ทุกวันนั้นมีต้นกำเนิดอย่างไร มีกระบวนการผลิตอย่างไร ถ้าคุณเป็น คอกาแฟ จริงๆต้องลองศึกษาเรื่องนี้

ประวัติของกาแฟ
                กาแฟนั้นถูกค้นพบขึ้นครั้งแรกโดยเด็กเลี้ยงแพะชาวอาบิสซีเนียซึ่งในปัจจุบันคือประเทศเอธิโอเปียนั่นเอง เด็กคนนี้มีชื่อว่า คาลดี เขาได้เกิดความสงสัยว่าทำไมแพะของเขาดูกระปรี้กระเปร่าเป็นพิเศษเมื่อไปกินผลของต้นไม้ต้นหนึ่งซึ่งต้นไม้นั่นคือ ต้นกาแฟนั่นเอง 

เมล็ดพันธุ์ของกาแฟ
              อราบิกา ( Arabica ) เป็นสายพันธุ์กาแฟที่มีคนนิยมปลูกและนิยมบริโภคกันมากที่สุดในโลกกาแฟสายพันธุ์นี้ถือว่าเป็นกาแฟที่ให้ผลผลิตที่มีคุณภาพเป็นกาแฟชั้นดีมีกลิ่นและรสชาติดีที่สุด เมล็ดพันธ์ของกาแฟอราบิกาจะมีรูปร่างค่อนข้างเรียวผอมมีลักษณะคล้ายตัว s เมื่อผ่านกระบวนการผลิตแล้วกาแฟพันธุ์นี้จะให้กลิ่นหอมหวานคล้ายกับกลิ่นของช็อกโกแล็ตและดอกไม้ มีรสชาตินุ่มละมุน มีคาเฟอีนประมาณ 1.1-1.7%
              โรบัสต้า ( Robusta ) เป็นสายพันธุ์กาแฟที่ต้องการความชื้นสูง ปลูกง่าย มีความคงทนกาแฟพันธุ์โรบัสต้าที่มีคุณภาพดีมักถูกนำไปใช้เป็นส่วนประกอบของกาแฟเอสเพรสโซ่แบบผสมหรือนำมาเป็นกาแฟสำเร็จรูปที่หาซื้อได้ตามท้องตลาด

 การผลิตเมล็ดกาแฟ
              การบ่ม ( Aging ) เมื่อผ่านการบ่มแล้ว นั่นหมายความว่า รสเปรี้ยวของกาแฟจะลดลงในขณะที่ความกลมกลืนของรสชาติโดยรวมจะเพิ่มขึ้น
              การคั่ว เป็นกระบวนการที่ขาดไม่ได้ในการทำกาแฟขึ้นมาสักถ้วย เมื่อถูกคั่วเล็ดกาแฟสีเขียวจะพองออกจนมีขนาดเกือบ 2 เท่าของของเดิม พร้อมทั้งเปลี่ยนสีและความหนาแน่นไป เมื่อเล็ดกาแฟถูกความร้อนมันจะค่อยๆเปลี่ยนสีจากสีเหลือเป็นสีน้ำตาลอ่อนๆและจะมีสีเข้มขึ้นเรื่อยๆ
              การบด เป็นกระบวนการผลิตการกาแฟรูปแบบหนึ่งโดยความละเอียดของการบดจะมีผลต่อรสชาติของกาแฟมาก ยิ่งบดกาแฟละเอียดมากเท่าไร รสชาติของกาแฟจะเข้มข้นมาขึ้นเท่านั้น

กาแฟแต่ละชนิด
                   กาแฟดำ ( Black Coffee ) ชงด้วยวิธีการหยดน้ำอาจเป็นให้น้ำซึมหรือแบบเฟรนซ์เพรส เสริฟ์โดยไม่ใส่นมอาจเติมน้ำตาลเพื่อเพิ่มความหวานได้ และคนมักเข้าใจผิดว่ากาแฟดำก็คือเอสเพรสโซ่

               
                 เอสเพรสโซ่ (  Espresso ) เป็นกาแฟที่มีรสแก่และเข้ม ซึ่งมีวิธีการชงโดยใช้แรงอัดไอน้ำร้อนผ่านเมล็ดกาแฟคั่วที่บดละเอียด ทำให้เอสเพรสโซ่มีรสชาติกาแฟที่เข้มข้นและหนักแน่นต่างจากทั่วไปที่ชงผ่านหยดน้ำ มักเสิร์ฟแบบชอต ( เป็นแก้วแบบจอก ) เพื่อให้ปริมาณไม่มากจนเกินไปซึ่งจะแตกต่างกันตามพฤติกรรมการดื่มกาแฟของคนแต่ละประเทศ



                คาปูชิโน ( Cappuccino ) มีส่วนประกอบหลักคือเอสเพรสโซ่และนมโดยมีอัตราส่วนของเอสเพรสโซ่ 1/3 ส่วนกับนมสตีม ( นมร้อนผ่านไอน้ำ ) 1/3 ส่วนและนมตีเป็นโฟมละเอียด 1/3 ลอยอยู่ด้านบนนอกจากนั้นอาจโรยด้วยผงชินามอนหรือผงโกโก้เล็กน้อยตามความชอบ คาปูชิโนมีต้นกำเนิดมาจากประเทศอิตาลี ผู้คนมักดื่มเป็นอาหารเช้า


                ลาเต้ ( Latte ) เป็นภาษอิตาลีแปลว่านม ส่วนในภาษาอื่นๆจะหมายถึง กาแฟลาเต้หรือเครื่องดื่มที่เตรียมด้วยนมร้อน โดยการเทเอสเพรสโซ 1/3 ส่วนและนมร้อน 1/3 ส่วนลงในถ้วยพร้อมๆกัน และหยดโฟมนมหนาประมาณ 1 ซ.ม.ทับข้างบน ในประเทศอิตาลีลาเต้จะรู้จักกันในชื่อว่า “ Coffee Latte “ ในการชงกาแฟลาเต้บาริสต้าจะใช้วิธีขยับข้อมือเล็กน้อยขณะที่รินนมและโฟมนมลงบนแก้ว ทำให้เกิดลวดลายต่างๆที่เรียกว่า ลาเต้อาร์ต ( Latte Art ) หรือศิลปะบนโฟมนมบนถ้วยกาแฟ

                มอคค่า ( Mocha )  เป็นกาแฟอราบิกาชนิดหนึ่ง กาแฟมอคค่ามีสีและกลิ่นคล้ายชอกโกแลตอันเป็นเอกลักษณ์ทำให้กาแฟมอคค่าเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย นอกจากนั้นมอคค่ายังหมายถึงเครื่องดื่มกาแฟซึ่งมีเอสเพรสโซและโกโก้เป็นส่วนประกอบ มอคค่ามีเสริฟ์ทั้งแบบร้อนและแบบเย็น


                อเมริกาโนหรือคาเฟ่ อเมริกาโน ( Americano ) เป็นเครื่องดื่มกาแฟซึ่งมีการชงโดยการเติมน้ำร้อนผสมลงไปในเอสเพรสโซ่ เป็นการเจือจางเอสเพรสโซ่ซึ่งเป็นกาแฟเข้มข้นด้วยน้ำร้อน ทำให้อเมริกาโนมีความแก่พอๆกับกาแฟธรรมดาแต่มีกลิ่นและรสชาติที่เข้มข้นมาจากเอสเพรสโซ่ อเมริกาโนจึงเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกาแฟดำแต่ไม่หนักถึงขั้นเอสเพรสโซ่ คนส่วนใหญ่จะนิยมดื่มแบบไม่ใส่น้ำตาลหรือนม เพื่อดื่มด่ำรสกาแฟอเมริกาโนซึ่งแตกต่างจากกาแฟธรรมดา


                กาแฟขาว ( White Coffee ) เป็นชาสมุนไพรชนิดหนึ่ง นิยมทานคู่กับขนมหวานในประเทศทางยุโรปจะกล่าวถึงกาแฟขาวในลักษณะของกาแฟใส่นมแต่ในสหรัฐอเมริกาจะหมายถึงกาแฟที่กลั่นไว้นานจนมีสีคล้ายสีเหลือง



สารในเมล็ดกาแฟ
                กาแฟเป็นเครื่องดื่มที่คนนิยมดื่มกันทั่วโลก ด้วยกลิ่นหอมและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้ผู้ที่ดื่มหลงใหล กาแฟเป็นเครื่องดื่มที่มีผลกับร่างกายของเราโดยนักวิทยาศาสตร์พบว่าในเมล็ดกาแฟมีสารพวก Trigonelline VitaminB3 VitaminE Chlorogenic Cafeicp-coumuric ซึ่งมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ( Antioxidant ) ต้านอาการบวม ( Antiinflamatory ) หรือแม้แต่ต้านมะเร็ง ( Anticancer ) แต่น่าเสียดายที่สารดังกล่าวได้ถูกทำลายไปกับกระบวนการผลิตเมล็ดกาแฟ
                ส่วนประกอบที่สำคัญของกาแฟคือ Caffeine หรือชื่อทางเคมีว่า 1,3,7-trimethylxanthine เป็นอนุพันธ์ของยาขยายหลอดลม theophylline caffeine สามารถพบได้หลายชนิด คือ ใบชา โคลา กาแฟ คาเฟอีนจะออกฤทธิ์โดยตรงต่อระบบประสาทส่วนกลาง เมื่อเราดื่มกาแฟกาแฟจะถูกดูดซึมอย่างรวดเร็วหลังจากที่เราดื่มกาแฟจะถูกขับออกไปในเวลาประมาณ 4 ชั่วโมง กาแฟที่เรากินเข้าไปจะไม่สะสมในร่างกาย แต่จะถูกทำลายและขับออกจนหมด

ประโยชน์ของกาแฟ
1.             กาแฟมีคาเฟอีนซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์กระตุ้นสมองส่วนกลางและกล้ามเนื้อให้ตื่นตัว  ทำให้คนที่ดื่มกาแฟจะรู้สึกสดชื่น  ช่วยแก้ความอ่อนเพลียของกล้ามเนื้อ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้สูงขึ้น
2.             มีผลดีต่อผิวพรรณ เพราะกาแฟทำให้เลือดไหลเวียนได้คล่อง ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น หากอาบน้ำผสมกาแฟจะมีบทบาทไปช่วยลดไขมัน
3.             ช่วยแก้เมา เพราะคาเฟอีนจะไปเสริมสรรมถนะของตับและไต ช่วยละลายแอลกอฮอล์
4.             ดื่มกาแฟวันละ 3 แก้วจะช่วยป้องกันนิ่วในถุงน้ำดีเพราะคาเฟอีนสามารถกระตุ้นให้ถุงน้ำดีหดตัวได้และยังช่วยลดคอเลสเตอรอลในถุงน้ำดี                                                                                                                       โทษของกาแฟ
1.             ทำให้ความดันโลหิตสูง ผลการวิจัยพบว่ากาแฟ 1 แกว ความดันโลหิตจะสูงนานถึง 12 ชั่วโมงดังนั้นจึงไม่ควรดื่มกาแฟขณะรู้สึกเครียด
2.             คาเฟอีนมีผลกระทบต่อการดูดซึมแร่ธาตุของลำไส้ เช่น Ca Fe และ Zn
3.             กาแฟจะทำให้ผู้ที่ป่วยเป็นโรคกระเพราะอาหารเป็นแผลรุนแรงขึ้น เนื่องจากกาแฟจะทำให้กระเพาะอาหารมีน้ำย่อยมาก จนทำให้เป็นแผลมากขึ้น

เมื่อได้ทำความรู้จักกับ กาแฟ พอสมควรแล้ว คอกาแฟทั้งหลายคงรู้แล้วว่า กาแฟ ไม่ได้เป็นเครื่องดื่มธรรมกาๆแต่เป็นเครื่องดื่มที่ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกายไม่ว่าจะเป็นกาแฟร้อนๆยามเช้า กาแฟเย็นสดชื่นยามบ่ายหรือกาแฟกับขนมชิ้นโปรดยามเย็น กาแฟได้ชื่อว่าเป็นเครื่องดื่มแห่งความสุขนั่นเพราะว่าเมื่อผู้ดื่มดื่มกาแฟเข้าไปแล้วจะเกิดความหลงใหลในรสชาติอันหอมกรุ่น กาแฟเป็นเครื่องดื่มที่ให้ทั้งประโยชน์และโทษ ดังนั้นการดื่มกาแฟที่ดีควรดื่มไม่เกินวันละ 3 แก้ว

จัดทำโดย นางสาวชุติกาญจน์  สุขาทิพย์  เลขที่ 15 ชั้น ม.5/1 

อ้างอิง :  พัชนี สุวรรณวิศลกิจ. 2549. สรรสาระ...กาแฟ. กรุงเทพมาหานคร: สกสค ลาดพร้าว.
                คลับสุขภาพ. สารต่างๆในกาแฟ. ( ออนไลน์ ). เข้าถึงได้จาก:              www.saimhealth.net/public_html/env-                                  
                        Ironment/coffee. 15 พฤศจิกายน 2556.
                จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ประวัติของกาแฟ. ( ออนไลน์ ). เข้าถึงได้จาก: www.anatomy.dent.chula.-
                                .ac.th-coffee. 14 พฤศจิกายน 2556.
                วิบูลย์. โทษและประโยชน์ของกาแฟ. ( ออนไลน์ ). เข้าถึงได้จาก: www.oknation.net/blog/pwiboon
                                /2011/08/03/03entry-1. 15 พฤศจิกายน 2556.
                สารนุกรมเสรี. ความรู้เรื่องกาแฟ. ( ออนไลน์ ). เข้าถึงได้จาก: www.th.wikipedia.org/wiki/กาแฟ.
                                14 พฤศจิกายน 2556.
                Maeyingzine. ประเภทของกาแฟ. ( ออนไลน์ ). เข้าถึงได้จาก: www.coffee.blood.blogspot.com/20-
                                08/04/blog. 15 พฤศจิกายน 2556.

             

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

About this blog

Research & Knowledge Formation

Blog Archive