“ RECON ”
ยอดคนเหนือคน


                การฝึกให้คนเป็นนักรบลาดตระเวนแบบสะเทินน้ำสะเทินบก หนึ่งในสุดยอดการฝึกของหน่วยรบพิเศษแห่งกองทัพเรือไทย  ย่อมมีมาตรฐานสูงไม่ต่างจากหน่วยรบอื่น ซึ่งในแต่ละปีมีทั้งทหารและตำรวจหลายนายที่มุ่งหน้ามายังฐานที่ตั้งการฝึกแห่งท้องทะเลสัตหีบจังหวัดชลบุรี  เพื่อก้าวไปสู่การเป็นนักรบแต่มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถผ่านด่านการฝึกที่สุดโหด จนได้เป็นสุดยอดนักรบที่มีชื่อว่า รีคอน
                หลายคนอาจจะไม่ค่อยคุ้นกับชื่อของ นักรบรีคอน (Recon) แต่หากบอกว่าพวกเขาคือหน่วยรบพิเศษในสังกัดนาวิกโยธินกองทัพเรือ ที่ต้องลาดตระเวนแบบสะเทินน้ำสะเทินบก ก็คงจะทำให้คาดเดาได้ว่าพวกเขาเหล่านี้ ต้องมีความแกร่งขนาดไหน


                ภารกิจของนักรบรีคอน (reconnassance) หรือกองพันลาดตระเวนคือการลาดตระเวนระยะไกล ซึ่งการทำงานจะมีความใกล้เคียงกับกองพันลาดตระเวนระยะไกล (LRRP) หรือกองพันจู่โจม (Ranger) ของกองทัพบก  หน่วยปฏิบัติการพิเศษในการเป็นหน่วยหัวหอกให้กับกำลังหลัก  แต่จะแตกต่างกันที่การฝึกปฏิบัติการในภูมิประเทศที่ต่างกัน  โดยนักรบรีคอน จะปฏิบัติภารกิจใกล้ชายฝั่งทะเลเช่น ชายหาด ป่าชายเลน และจากเรือมากกว่า เป็นต้น


                หลายคนมักสับสนเข้าใจว่านักรบรีคอนเป็นหน่วยเดียวกับซีล  เพราะต้องปฏิบัติภารกิจในท้องทะเลเหมือนกันนักรบรีคอน  แต่แท้ที่จริงแล้วการทำงานของทั้งสองหน่วยแยกออกจากกันอย่างสิ้นเชิง  อีกทั้งหน่วยงานก็ขึ้นตรงต่างกันด้วย โดยหน่วยรบซีลมีชื่อเดิมว่าหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือเป็นหน่วยในบังคับบัญชาของกองทัพเรือส่วนหน่วยรบรีคอน  ขึ้นตรงต่อหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน
               


ทั้งนี้การทำงานของหน่วยรบซีลจะเน้นหนักไปทางด้านการทำลายใต้น้ำเพื่อเตรียมเส้นทางยกพลขึ้นบก  หรือสำรวจหัวหาดเพื่อประเมินความพร้อมเตรียมสถานการณ์ก่อนจะยกพลขึ้นโดยมักจะใช้ปฏิบัติการทำสงครามนอกแบบเป็นหลัก  ในลักษณะหน่วยขนาดเล็ก เช่นภารกิจโดยตรงอย่างการแทรกแซงเข้าหลักแนวข้าศึกเพื่อภารกิจข่าวกรองทหาร


                เริ่มต้นด้วยการทดสอบสมรรถภาพทางด้านร่างกายของเหล่าผู้สมัครเข้ารับการอบรมหลักสูตรนักรบรีคอน  เพื่อคัดเลือกคนที่จะผ่านปราการด่านแรกเข้าไปเป็นนักเรียนหลักสูตรนี้อย่างรวดเร็วเต็มตัวโดย พ.ต.ชัชพล  ใจเสน  หัวหน้าชุดครูฝึกนักรบรีคอนเล่าว่า  ผู้สมัครเข้ารับการอบรมมีมาจากทุกเหล่าทัพ ทั้งจากกองทัพบก กองทัพอากาศ และกองทัพเรือรวมไปถึงตำรวจ  ซึ่งจะทำการฝากยศเอาไว้กับครูฝึก ก่อนจะทำการทดสอบโหนราว 20 ครั้งต้องผ่าน 9 ครั้ง ซิทอัพ 79 ครั้งต้องผ่าน  54 ครั้งในเวลา 2 นาที วิดพื้น 54 ครั้งต้องผ่าน 34 ครั้ง  งอเข่าลุกนั่งหรือแทงปลาไหล 150 ครั้งต้องผ่าน 110 ครั้ง วิ่งกลับตัว 300 หลา และว่ายน้ำ 1 ไมล์ทะเลภายในเวลา 1 ชั่วโมง  ซึ่งผู้สมัครหลายคนยอมรับว่าการมาสมัครหลักสูตรนี้เป็นหนึ่งในความต้องการของชีวิตลูกผู้ชาย  ที่อยากจะก้าวไปให้ถึงที่สุดของเส้นทางสายนี้  เพราะนักรบรีคอนคือหน่วยรบพิเศษที่ต้องเป็นผู้นำในภาวะวิกฤต  ต้องปฏิบัติการรบได้ทุกรูปแบบ  อีกทั้งยังต้องสามารถถ่ายทอดความรู้ ความสามารถ ที่มีให้ผู้อื่นได้ด้วย
                เมื่อถึงเวลาของการทดสอบทางน้ำ  ผู้สมัครหลายคนต้องยอมหยุดอยู่แค่ด่านนี้เนื่องจากบางคนเป็นตะคริวกลางคัน  และอีกหลายคนหมดแรงที่จะว่ายน้ำต่อไปให้ถึงจุดหมายซึ่งแม้จะมีผู้ผ่านด่านการทดสอบนี้ได้สำเร็จ  แต่ก็จัดว่ายากลำบากพอสมควร โดยผู้ที่ผ่านด่านทดสอบนี้สองคนแรกเป็นทหารในสังกัดของกองทัพบก  อีกทั้งยังเป็นพี่น้องกันอีกด้วย  ซึ่งแม้จะไม่ได้ปฏิบัติภารกิจในน้ำมากนัก แต่ก็ต้องยอมรับในความอึดของทั้งคู่จริงๆ
                จากนี้มีผู้ผ่านด่านการทดสอบร่างกายทั้งหมด 131 นาย จะต้องเข้ารับการตรวจร่างกายจากโรงพยาบาลสังกัดกองทัพเรือ  และถูกคัดเลือกให้เหลือ 81 นาย เพื่อเข้ารับการฝึกต่อไป
                4 สัปดาห์หลังจากนั้น ผู้ป่านการคัดเลือกทั้ง 81 นาย ก็จะต้องมารายงานตัวเพื่อทำการฝากยศ  ซึ่งเป็นการปรับให้ทุกคนสามารถเป็นนักเรียนลาดตระเวนหลักสูตรนี้ด้วยกันอย่างเท่าเทียม  จากนั้นจึงเข้าสู่การตัดผมและเริ่มต้นรับน้องเพื่อทดสอบทั้งร่างกายและจิตใจของว่าที่นักรบรีคอนอีกครั้ง  โดยการทดสอบครั้งนี้ทำให้มีหลายคนถึงกับต้องอาเจียนออกมาและยืนต่อไม่ไหวเลยทีเดียว  แต่ครูฝึกก็ยังยืนยันว่าจะต้องสู้ต่อไปทุกคน  และหากฮึดสู้ก็จะสามารถทำได้เหมือนเพื่อคนอื่นๆ
                ตลอดจนการแบกของหนักๆสู่ที่พัก  หนึ่งในผู้เข้าฝึกถึงกับต้องล้มทั้งยืนหลายครั้งจากความเหนื่อยอ่อนแรง  แม้ครูฝึกจะคอยตามประกบเพื่อช่วยเหลือยามคับขัน  แต่ก็ทำได้เพียงย้ำอยู่ตลอดทาให้เขาสู้  หากไม่สู้ก็ต้องหอบกระเป๋ากลับบ้านเท่านั้น  สุดท้ายเมื่อเหล่านักรบถึงที่พักก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเข้ารับการฝึกขั้นต่อไปทันที


                เช้าวันแรกที่ศูนย์ฝึกหลังจากตื่นนอนพวกเขาก็ต้องทำการฝึกฝนร่างกายอย่างต่อเนื่อง ทั้งการวิ่ง ไต่เชือก แบกเรือลงน้ำเพื่อฝึกว่ายน้ำ  และฝึกใช้อุปกรณ์ทางนำได้เชี่ยวชาญ  โดยหลังจากนี้ต่อไปอีก 2.160 ชั่วโมง  เหล่าว่าที่นักรบรีคอนต้องเผชิญกับการฝึกที่หนักหนาสาหัสต่อไปจนจบการฝึก
                เมื่อเวลาผ่านไป ระยะเวลาการฝึกเพิ่มมากขึ้นแต่จำนวนว่าที่นักรบกลับลดลงเรื่อยๆเพราะการฝึกเพียงแค่ด่านแรกในภาคที่ตั้ง  บางคนก็ถึงกับทรุดและยอมถอดใจเนื่องจากร่างกายอ่อนล้าเกินต้านทางไหว   พวกเขาได้นอนเพียงแค่วันละ 2 ชั่วโมง กินวันละ 1 มื้อ ฝึกแบกเรือยางสารพัดวิธีพายเรืออย่าต่อเนื่องไม่หยุดพัก รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 80 ชั่วโมงแม้ในเวลากินพวกเขาก็ต้องรับการฝึก
                ยิ่งไปกว่านั้นในบางรุ่น  นักเรียนรีคอนบางคนก็ไม่อาจรับสภาพการฝึกอันหนักหน่วงทั้งร่างกายและจิตใจได้ทำให้เกิดเหตุการณ์ที่น่าโศกเศร้าคือมีนักเรียนเสียชีวิตขณะฝึก ต้องลาโลกไปก่อนที่จะได้เป็นยอดนักรบ เช่นเดียวกับนักเรียนรีคอน รหัส 007 รุ่น 41 ที่เสียชีวิตหลังจากการฝึกว่ายน้ำในเวลากลางคืน
                และส่วนใครที่ยังอึดและฮึดสู้พวกเขายังมีบททดสอบสุดหินในภาคทะเลและภูเขารออยู่ข้างหน้า โดย 2 สัปดาห์สุดท้ายจะเป็นช่วงการฝึกที่หนักหน่วงที่สุดคือการปฏิบัติภารกิจตามสถานการณ์สมมุติ  ต้องอาศัยความรู้ในการเดินป่า  การดำรงชีพในป่า การโจมตี การลาดตระเวนที่ได้รับฝึกมาทั้งหมด  ซึ่งกว่าจะผ่านแต่ละวันไปได้ ก็ด้วยความอ่อนล้า ทรมานเกินบรรยาย
                ด้วยความเป็นหน่วยแรกที่เข้าพื้นที่ข้าศึก  นักรบรีคอนจึงต้องฝึกการส่งกำลังทางอากาศ  และปฏิบัติภารกิจแบบฉับพลันทางทะเล  นักเรียนรีคอนทุกคนจะต้องถูกฝึกยุทธวิธีหลากหลายรูปแบบให้เชี่ยวชาญการรบทั้งในน้ำ บนฟ้า และพื้นฝั่งจนได้รับฉายาว่านักรบสามมิติทั้งนี้ก็เพื่อเป็นผู้นำหลักของหน่วยทหารขนาดเล็กในการช่วยดูแลประเทศต่อไปในอนาคต
                ถึงแม้ว่านักรบรีคอนจะต้องผ่านการฝึกสุดหฤโหดชนิดที่ไม่เคยเจอที่ไหนมาก่อน  ตลอดระยะเวลาเกือบ3เดือน แต่เชื่อเหลือเกินว่ายามใดที่พวกเขาสามารถเอาชนะความยากลำบากนั้นมาได้  จนได้รับเครื่องหมายการรบ 3 มิติบนหน้าอก  ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งนักรบรีคอน  นั่นแหละคือความภาคภูมิใจอย่างสูงสุดอย่างหนึ่งของชีวิตลูกผู้ชายที่ต้องทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของบ้านเมือง


                หลักสูตร UDT หรือที่เรียกว่า มนุษย์กบเป็นหนึ่งเดียวที่มีสถานะเป็นทั้งชื่อหลักสูตรและหน่วยปฏิบัติงาน  ส่วนแรงเยอร์และรีคอนเป็นหลักสูตรเพื่อเสริมสมรรถนะของทหารเท่านั้น
                กองพันหน่วยลาดตระเวนและหน่วยสงครามพิเศษทางทะเล (UDT) ต่างก็เป็นไพ่ตายของกองทัพเรือเหมือนกองทัพจู่โจมซึ่งเป็นหมัดเด็ดของกองทัพบก พื้นฐานการฝึกคนเข้าประจำหน่วย นับว่ามีกฎเกณฑ์มาตรฐานสูงส่งพอๆ กัน เพราะครูฝึกชุดแรกๆ ของรีคอนจบไปจากมนุษย์กบ ผิดแต่รีคอนไม่มีภาคดำน้ำ ไม่มีสัปดาห์นรก และใช้เวลาการฝึกเพียง 13 สัปดาห์ แต่ UDT ใช้เวลาฝึกนานถึง 31 สัปดาห์
                การย้อนรอยผ่านสัตหีบสู่เกาะพระ เท่ากับได้เยี่ยมเยือนมิตรทั้งสองหน่วย หากกล่าวถึงยูดีทีก็หมายถึงมีส่วนหนึ่งของรีคอนอยู่ในนั้นด้วยเช่นกัน
                สัญลักษณ์ "ฉลามคู่กับเกลียวคลื่น" หน้าหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ ทำให้คนหยุดเพ่งพินิจได้เสมอ ไม่ว่าผู้นั้นจะมาเยือนเกาะพระแล้วกี่ครั้ง อาจเพราะมันเป็นฉลามขาวที่งดงามที่สุดประการหนึ่ง อาจเพราะมันสามารถหาคู่ต่อกรยากที่สุดก็ว่าได้  คนที่เคยไปเยือนเกาะพระจะรู้สึกประทับใจ ชื่นชมต่อบรรยากาศที่จะขัดเกลานักรบแต่คนที่เคย "ผ่าน" เกาะพระจะไม่มีวันลืม ไม่ว่าเขาผู้นั้นจะถูกส่งไปปฏิบัติภารกิจแห่งหนใด เขาจะไม่มีวันลืมบรรยากาศศักดิ์สิทธิ์ในวันที่ได้ครอบครองปีก "ฉลามคู่ทะยานอยู่เหนือเกลียวคลื่น" หลังจากผ่านการฝึกภาคต่างๆ เป็นเวลานานเสียจนร่างกายทรุดโทรมผู้รับการฝึก มีเพียงดวงตาสุกใสดั่งประกายของทะเล และเรี่ยวแรงเพียงเล็กน้อยเพื่อจะทรงกาย... เปล่งคำปฏิญาณโดยพร้อมเพรียงกัน"นี่คือฉลามเสือของเรา สัญลักษณ์แห่งความเดเดี่ยว กล้าหาญและความมีอำนาจข้าพเจ้าทราบดีว่าข้าพเจ้าได้รับเครื่องหมายนี้มาด้วยความยากลำบาก ณ บัดนี้ข้าพเจ้าภูมิใจและศรัทธาที่จะประดับเครื่องหมายนี้"เกาะพระวันนี้เปลี่ยนแปลงหลายส่วน ในระดับโครงสร้างหน่วยนี้ได้ปรับขยายตั้งแต่พ.ศ. 2534 จากแผนกปฎิบัติงานชายฝั่งเป็นหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ
                กำลังพล ซึ่งเดิมเคยมีแค่นับสิบคน ปัจจุบันสมาชิกนักทำลายใต้น้ำจู่โจมในหน่วยฯมีหลายร้อยคน หลังจากผ่านการฝึกไปทั้งสิ้น 21 รุ่น นายทหารชั้นประทวนหลายนายซึ่งครั้งหนึ่งเป็นนักเรียนนักทำลายใต้น้ำจู่โจม กอดชูชีพที่เขียนรหัสT-3, X-1 ลอยคอกลางทะเลกลายเป็นสมาชิกนักทำลายใต้น้ำจู่โจมเต็มตัว รับหน้าที่เคี่ยวทหารรุ่นน้องต่อไปทหารเรือที่ติดอาร์มฉลามกับเกลียวคลื่น จะได้รับการบรรจุเข้าทำงานในหน่วยนี้ทันที


                ครูฝึกบันทึกไว้ว่า เคยมีนักเรียน 3 คน เสียชีวิตในเฟสดำน้ำ เนื่องจากผู้เข้ารับการฝึกเกิดการช็อก ตกใจสภาพแวดล้อม โดยครูฝึกคาดการณ์ไม่ถึง
                ปี พ.ศ.2533 ผู้เข้ารับการฝึกเสียชีวิตในภาคป่า ระหว่างข้ามลำน้ำเวลากลางคืนเนื่องจากร่างกายอ่อนล้า โดยเหลือเวลาอีกไม่กี่สัปดาห์ ทหารผู้นั้นก็จะได้เป็นนักทำลายใต้น้ำจู่โจม
                ครูฝึกท่านหนึ่งเคยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการฝึกที่หนักหน่วงว่า ทางหน่วยฯไม่เคยประเมินว่า การฝึกนั้นต้องให้มีการสูญเสียจึงเรียกว่าเป็นการฝึกที่หนัก การฝึกที่หนักจะต้องเน้นที่ความปลอดภัยด้วย ในการวางแผนจะคำนึงถึงและเตรียมแก้ไขสถานการณ์รับมือกับความสูญเสียร้ายแรงที่จะเกิดอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ร้ายแรงกว่าที่คาดไว้ก็อาจเกิดขึ้นได้ เพราะภาวการณ์ของนักเรียนแต่ละคน บางครั้งครูฝึกไม่สามารถสังเกตพบอาการจากภายนอกได้ การเสียชีวิตของนักเรียนมีทั้งเกิดขึ้นทันทีทันใด และภายหลังการฝึก
                กองอำนวยการฝึกหน่วย UDT มีเหตุผลที่จะกำหนดหลักสูตรการฝึก UDT ให้เข้มข้นชนิดที่คนภายนอกมองว่า โหดและเหนื่อยยากแสนสาหัสทหารในหน่วยนี้ผ่านการฝึกฝนหนัก ที่เป็นเช่นนี้เพราะเรามีแนวความคิดที่ว่า ถ้าเราฝึกเคี่ยวให้จิตใจและร่างกายมีความอดทนเหนือกว่าคนทั่วๆ ไป สิ่งที่เขาจะได้คือความมั่นใจที่จะปฏิบัติงาน เพราะเขาได้เอาความอดทนขีดสุดมาใช้แล้ว ทำให้เขามั่นใจที่จะใช้ขีดความสามารถ หรือความรู้ที่มีอกมาในลักษณะต่างๆ การที่คนเราไม่มีโอกาสผ่านการทดสอบจนทราบถึงขีดความสามารถ อาจเกิดความลังเล ไม่ทราบว่าตนเองทำอะไรได้ มีประสิทธิภาพแค่ไหน
                นักเรียน UDT จะต้องถูกทดลอง ครูฝึกผูกปัญหาขึ้นมามากมาย เพื่อทดสอบทดลองการทดลองที่สร้างสำหรับนักเรียนเป็นการทดลองที่เหนือมาตรฐานปกติธรรมดามากเราจึงต้องมีสัปดาห์นรก ในช่วง 120 ชม. ของสัปดาห์นรก นักเรียนแทบไม่ต้องนอน (หรือเดินทอดน่อง) ครูฝึกจะให้นักเรียนวิ่ง ว่ายน้ำ แล้วก็ให้เปลื้องผ้าดำน้ำไปในบ่อน้ำแข็งแต่ละทีมแบกเรือยาง (หนักราว 200 กก.) ผ่านสถานีเครื่องกีดขวาง กินอาหารภายใน 1นาที โดยเทอาหารลงบนพื้นปูน ให้นักเรียนเอามือขัดหลังกิน ฯลฯ นักเรียนนักทำลายใต้น้ำจู่โจมบางรุ่น ไม่ผ่านสัปดาห์นรกแทบยกรุ่น เหลือเพียง 6 - 7 คน จนกองอำนวยการฝึกต้องขออนุญาตหน่วยเหนือปิดการฝึกนักเรียนรุ่นนั้นเสีย เพราะไม่คุ้มกับงบประมาณที่ต้องสูญเสียเป็นจำนวนมหาศาล เพียงยานลำเลียงสนับสนุนการฝึก เช่น เรือเร็ว เฮลิคอปเตอร์ต้องเสียค่าน้ำมัน และการบำรุงรักษาเครื่องเป็นจำนวนมาก
                "สัปดาห์นรกอาจไม่ใช่การฝึกที่หนักที่สุด แต่ต้องใช้ความอดทนที่สุด ช่วงดังกล่าวมีปัญหามากมายรุมเร้าเขาในลักษณะที่ต่อเนื่อง เราต้องการดูใจนักเรียนว่ามีความอดทนที่จะต่อสู้เพื่อชนะอุปสรรคแค่ไหน และเชื่อว่าไม่มีสภาพใดที่จะวัดผลได้ นอกจากจะทดสอบเขาด้วยความยากลำบาก เหน็ดเหนื่อยและหิวโหย ในจุดนั้นถือว่าเป็นการประเมินประสิทธิภาพคนได้ดีที่สุด ถ้าเอาเขามานั่งสบาย กินอิ่มนอนหลับ เราจะไม่มีโอกาสรู้ว่าเมื่อถึงสถานการณ์คับขัน เขาจะมีจิตใจต่อสู้ได้แค่ไหน"
                เมื่อหน่วยเหนือต้องการคนที่มีความสามารถไปทำงาน เขาจะประเมินขีดความสามารถของคนโดยดูจากเครื่องหมายที่หน้าอก เพราะเครื่องหมายจะชี้บ่งว่า คนคนนั้นผ่านการทดสอบอะไรมาบ้าง
                คำกล่าวของนายทหารเรื่อง "ส่งคนไปทำงาน" ชวนให้จินตนาการถึงงานจารกรรม สายลับในพื้นที่ที่ห่างไกลซึ่งว่ากันว่าทหารหน่วยนี้มีศักยภาพเพียงพอที่จะดำเนินการให้ลุล่วงได้ และก็อาจมีส่วนร่วมอยู่ด้วย แต่เรื่องนี้ก็ยังเป็นที่ปิดลับเสมอมาทหารที่สำเร็จหลักสูตรการฝึกอันหนักหน่วงของ UDT เมื่อเข้าเป็นสมาชิกของหน่วยฯจะได้รับการฝึกชั้นสูงเป็นเวลา 3 เดือน บทเรียนต่าง ๆ ในหลักสูตรเบื้องต้น ถูกนำมาพูดอีกครั้งในการฝึกชั้นสูง รวมทั้งเทคนิคชิงตัวประกัน การแทรกซึมทุกรูปแบบ การก่อวินาศกรรม วัตถุระเบิด การดำน้ำวงจรปิดสู่ที่หมายของข้าศึก ฯลฯ รวมทั้งการต่อต้านการก่อการร้ายสากล เนื่องจากเป็นหน่วยปฏิบัติการพิเศษหน่วยหนึ่งของกำลังใน ศตก. ที่เกี่ยวข้องกับการรับมือผู้ก่อการร้ายโดยตรง
                กำลังพลนักทำลายใต้น้ำจู่โจมส่วนหนึ่ง จะถูกส่งไปประจำการตามกองเรือภาคต่างๆหรือหน่วยปฏิบัติการตามลำน้ำโขง (นปข.) หมุนเวียนสับเปลี่ยนกำลังพลกันเสมอ พวกที่เหลือทำงานธุรการ ฝึกกำลังพลรุ่นใหม่เข้าเสริมให้เต็มอัตรา รวมทั้งฝึกฝนความพร้อมรบอยู่ตลอดเวลา


อ้างอิง

นายสหรัฐ  สุวรรณปักขิณ  เลขที่ 7 ม.5/1








0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

About this blog

Research & Knowledge Formation

Blog Archive